กัมพูชาเปิดโครงการเหมืองแร่ทองคําแห่งแรกที่โอกะวาว (Okva) จังหวัดมณฑลคีรี
เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 บริษัท Renaissance Minerals (Cambodia) ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชา ในการเปิดโครงการเหมืองแร่ทองคําโอกะวาว ที่อําเภอแกวเซียมา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดมณฑลคีรี โดยมีนายซุย แซม รัฐมนตรีกระทรวงแร่และพลังงานกัมพูชาเป็นประธานในพิธี ซึ่งโครงการดังกล่าวมีมูลค่าการลงทุนเบื้องต้น 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 ดำเนินการหลอมสินแร่เป็นทองคําแท่ง 90% และผลิตทองคําแท่ง ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 โดยคาดการณ์ว่า เหมืองแห่งนี้จะมีศักยภาพแปรรูปสินแร่ทองคําได้เกือบ 2 ล้านตันต่อปี อนึ่ง กัมพูชาอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาสํารวจสินแร่ทองคําในประเทศตั้งแต่ปี 2532 แต่ยังไม่มีการค้นพบแหล่งแร่ที่คุ้มค่าต่อการลงทุน จนกระทั่ง บริษัท Emerald Resources NL ค้นพบเหมืองแร่แห่งนี้เมื่อปี 2556 และเริ่มศึกษาปริมาณทองที่จะได้ก่อนเริ่มลงมือทําเหมืองจริง โดยบริษัท Renaissance ได้รับสัมปทานเหมืองแร่แห่งนี้จากรัฐบาลกัมพูชาเป็นเวลา 4 ปี โดยตั้งเป้าผลิตทองคําเฉลี่ยปีละ 3 ตัน ซึ่งเหมืองแห่งนี้มีคนงานทั้งหมด 462 คน เป็นชาวกัมพูชา 427 คน และชาวต่างชาติ 35 คน ทางด้านรัฐบาลกัมพูชาคาดว่า โครงการเหมืองแร่ทองแห่งนี้ จะสร้างรายได้ก่อนหักภาษีปีละ 145 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นรายได้ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากค่าสัมปทาน ส่วนภาษีอากรจะนําเข้าสู่งบประมาณแผ่นดิน
.
กัมพูชาและเกาหลีใต้กําหนดวันลงนามความตกลง FTA
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2564 นายปาน สรศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา และนางยู มยอง ฮวี รัฐมนตรีกระทรวงการค้าเกาหลีใต้ เป็นผู้แทนรัฐบาลของทั้งสองประเทศลงนามในความตกลง FTA กัมพูชา-เกาหลีใต้ ผ่านระบบออนไลน์ โดยร่างความตกลงดังกล่าวได้รับความเห็นชอบร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งมีสาระสําคัญ คือ ทั้งสองประเทศจะยกเว้นภาษีนําเข้าระหว่างกันร้อยละ 90 สําหรับกระบวนการบังคับใช้ของกัมพูชา จะต้องดําเนินการภายในทางกฎหมายและให้พระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธยก่อน หลังจากนั้นทั้งสองประเทศจะประกาศใช้ความตกลงอย่างเป็นทางการภายใน 30– 60 วัน
.
จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2564 ปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชา- เกาหลีใต้ มีมูลค่ากว่า 720 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10.3 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกัมพูชาส่งออกไปยังเกาหลีใต้ประมาณ 260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้านการนำเข้า คิดเป็น 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร ได้แก่ ยางธรรมชาติ และมะม่วง ทั้งนี้ หากความตกลง FTA ระหว่างสองประเทศมีผลบังคับใช้ ปริมาณการค้าทวิภาคีจะยิ่งเพิ่มขึ้น และเปิดโอกาสให้ธุรกิจในกัมพูชาได้ส่งออกและเปิดตลาดในเกาหลีใต้ได้เพิ่มมากขึ้น
.
รัฐบาลกัมพูชาประกาศใช้แผนแม่บทการท่องเที่ยวจังหวัดเสียมราฐ ปี 2021-2035
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 รัฐบาลกัมพูชาประกาศใช้แผนแม่บทการท่องเที่ยวจังหวัดเสียมราฐ ปี 2021-2035 โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในจังหวัดเสียมราฐ และกําหนดเป้าหมายรายได้การท่องเที่ยวไว้ที่ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และตั้งเป้าจํานวนนักท่องเที่ยวในประเทศ 10.4 ล้านคน นักท่องเที่ยวต่างประเทศ 7.5 ล้านคนในปี 2035 ทั้งนี้ ในปี 2564 จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในกัมพูชาลดลงกว่าร้อยละ 90 หรือคิดเป็น 1 แสนคนเท่านั้น เนื่องจากมาตรการการเดินทางเข้าประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของ
COVID-19
.
โครงการโรงงานอุตสาหกรรมในกัมพูชาจดทะเบียนใหม่
กระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมกัมพูชา ประกาศจํานวนโครงการโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งลงทะเบียนใหม่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มีจำนวนทั้งหมด 124 รวมจํานวนโรงงานอุตสาหกรรมที่ดําเนินการอยู่ทั้งสิ้น 1,843 แห่ง ใช้เงินลงทุนรวม 13,341 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมด 3,057 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมูลค่าการค้าขายภายในประเทศกว่า 1,123 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
มูลค่าการค้าของกัมพูชาในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564
มูลค่าการค้าของกัมพูชาในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 25,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 คิดเป็นการส่งออก 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 จากช่วงเดียวกันของปี 2563 โดยสินค้าส่งออกสําคัญ ได้แก่ สิ่งทอ และจักรยาน ในขณะที่การนําเข้ามีมูลค่า 14,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสินค้านําเข้าหลัก ได้แก่ อุปกรณ์ก่อสร้าง และน้ำมัน ทั้งนี้ ตลาดส่งออกหลักของกัมพูชายังคงเป็นสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป
.
รัฐบาลกัมพูชาเห็นชอบอนุมัติงบประมาณสําหรับปี 2565
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2564 รัฐบาลกัมพูชาอนุมัติงบประมาณมูลค่า 4,000 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สําหรับค่าใช้จ่ายในปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงบประมาณในปี 2564 กว่าร้อยละ 6.8 โดยงบประมาณปี 2565 มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวหลังจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ กัมพูชาคาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมี อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ร้อยละ 4.6 เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่คาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตที่ร้อยละ 2.4 เนื่องจากกัมพูชาเริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาในกัมพูชามากขึ้น ทั้งนี้ ร่างงบประมาณจะต้องผ่านการพิจารณาจากรัฐสภากัมพูชาก่อน และจะประกาศใช้ภายในสิ้นปีนี้
.
รัฐบาลกัมพูชาเตรียมขายพันธบัตรของรัฐ
รัฐบาลกัมพูชาวางแผนที่จะออกพันธบัตรของรัฐมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 เพื่อระดมเป็นแหล่งเงินทุนในประเทศสําหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น โครงการโครงสร้างพื้นฐาน โครงการระบบสาธารณูปโภค พลังงาน การชลประทาน และภาคส่วนอื่น ๆ ที่มีความสําคัญ โดยร่างกฏหมายเกี่ยวกับการออกพันธบัตรของรัฐได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีกัมพูชาแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังกัมพูชา ระบุว่า การออกพันธบัตรจะช่วยลดการกู้เงินจากต่างประเทศ
.
จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของกัมพูชาข้างต้น เห็นได้ชัดว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านภาคธุรกิจไทยที่เกี่ยวกับอุปกรณ์ก่อสร้าง ควรเร่งพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ และมีปริมาณที่เพียงพอต่อการส่งออกไปยังกัมพูชา เนื่องจากสินค้าประเภทนี้เป็นส่วนสำคัญในโครงการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานในกัมพูชาในอนาคต ทั้งนี้ ด้านการท่องเที่ยวในกัมพูชาที่เริ่มกลับมาคึกคัก ภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวไทย ควรอาศัยข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมาเที่ยวในไทยต่อ โดยอาจชูจุดเด่นด้านการบริการที่มีชื่อเสียง เช่น การนวดแผนไทย
.
สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงพนมเปญ