1.ธนาคารกลางสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore: MAS) ประกาศจัดตั้งกลุ่มงานความยั่งยืน (Sustainability Group)
1.1 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 MAS ประกาศจัดตั้งกลุ่มงานความยั่งยืน (Sustainability Group) และแต่งตั้งดร. Darian McBain เป็นประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน (Chief Sustainability Officer) ของ MAS ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ซึ่ง MAS มอบหมายให้ ดร. McBain กำกับดูแลงานด้านการกำหนดระเบียบวาระและภารกิจของคณะกรรมการขับเคลื่อนการเงินสีเขียว (Green Finance Steering Committee) ของ MAS ซึ่งมีนาย Ravi Menon ผู้ว่าการ MAS เป็นประธาน
.
1.2 ประธาน MAS ให้ความเห็นว่า การก่อตั้งกลุ่มงานความยั่งยืนของ MAS สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานในการสร้างความตระหนักรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ซึ่ง MAS ให้ความสำคัญกับภารกิจด้านความยั่งยืน การเงินสีเขียว และความยืดหยุ่นทางสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ดร. McBain จะอยู่ภายใต้การบริหารของรองผู้ว่าการ MAS 2 คน ได้แก่ Ms. Ho Hern Shin ดูแลกลุ่มภารกิจการเงิน และนาย Leong Sing Chiong ดูแลกลุ่มภารกิจการตลาดและการพัฒนา
.
1.3 การจัดตั้งกลุ่มงานความยั่งยืนของ MAS มีวัตถุประสงค์ ได้แก่ 1) การเสริมสร้างความยืดหยุ่นของภาคการเงินต่อความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม 2) การพัฒนาระบบนิเวศทางการเงินสีเขียวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเอเชียไปสู่ภูมิภาคที่มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำในอนาคต 3) การกำหนดกลยุทธ์ความร่วมมือด้านการเงินสีเขียวกับคู่ค้าในภูมิภาคและนานาชาติ 4) ลดการปล่อยคาร์บอนและ footprint ของผลิตภัณฑ์สิ่งแวดล้อม (Environmental footprint)
.
1.4 ดร. McBain มีประสบการณ์เชิงลึกมากกว่า 20 ปีในบทบาทด้านความยั่งยืนครอบคลุมภาคส่วนต่างๆ โดยล่าสุดดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนของกลุ่มบริษัทไทยยูเนี่ยนประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทอาหารทะเล และเพิ่งได้รับรางวัล The 2021 Sustainable Development Goal (SDG) Pioneers จาก UN Global Impacts ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับผู้นำด้านธุรกิจที่มีผลงานโดดเด่นในการส่งเสริมด้าน SDG
.
2.หน่วยงาน Enterprise Singapore (ESG) จัดตั้งแผนสนับสนุนเงินทุนแก่ธุรกิจสีเขียว Enterprise Financing Scheme-Green (EFSGreen) เพื่อสนับสนุนศักยภาพด้านธุรกิจสีเขียวของผู้ประกอบการสิงคโปร์
.
2.1 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ESG ได้จัดตั้งแผนสนับสนุนเงินทุนแก่ธุรกิจสีเขียว Enterprise Financing Scheme-Green (EFSGreen) ในโครงการ Enterprise Sustainability Program (ESP) เพิ่มเติมจากแผน EFS เดิมเพื่อให้ธุรกิจในสิงคโปร์เข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียวในการพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ทั้งการลดจำนวนขยะลดการใช้ทรัพยากร และลดการปล่อยมลพิษก๊าซเรือนกระจก เพื่อได้รับโอกาสที่กำลังเติบโตในระบบเศรษฐกิจสีเขียว
.
2.2 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 31 มีนาคม 2567 EFS-Green จัดเปิดให้กู้ยืมเงินผ่านธนาคารพันธมิตร เช่น DBS HSBC OCBC และ UOB แบบแบ่งปันความเสี่ยงร้อยละ 70 เพื่อสนับสนุนผู้พัฒนาโครงการ ผู้เชื่อมโยงระบบ และผู้ใช้เทคโนโลยีโซลูชั่นเกี่ยวกับด้านพลังงานสะอาด เศรษฐกิจหมุนเวียน โครงสร้างพื้นฐานสีเขียว และภาคการขนส่งที่ลดการปล่อยมลพิษ ทั้งทางบก ทะเล และอากาศ ซึ่งโครงการตอบสนองความต้องการเงินทุนในทุกประเภท
.
2.3 ธนาคารพันธมิตรดังกล่าว ได้พัฒนากรอบการทำงานด้านเงินทุนสีเขียวและความยั่งยืนสำหรับ SMEs และวิสาหกิจ เห็นว่า โครงการ EFS Green จัดทำในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะอุปสงค์จากห่วงโซ่อุปทานสีเขียว และการแก้ไขปัญหาสีเขียวกำลังเติบโตทั่วโลกในทุกภาคอุตสาหกรรม การให้สินเชื่อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนี้จะช่วยโน้มน้าวธุรกิจ SMEs จำนวนมากให้ทำธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน และช่วยให้ธุรกิจ SMEs สามารถเจาะตลาดใหม่ ๆ โดยสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ
.
ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า ความร่วมมือด้านการเงินสีเขียวเป็นสาขาที่ไทยและสิงคโปร์มีศักยภาพและผลประโยชน์ร่วมกันที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ในอนาคตเป็นอย่างมาก โดยคณะทำงานด้านความยั่งยืนในภาคการเงินของไทย (Working Group on Sustainable Finance) ซึ่งประกอบด้วยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สังกัดกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ร่วมกำหนดทิศทางการดำเนินการด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนในภาคการเงินไทยที่ชัดเจนยิ่งขึ้นและมีทิศทางร่วมกัน โดยคณะทำงานฯ ได้ร่วมเผยแพร่แนวทางการพัฒนาภาคการเงินเพื่อความยั่งยืนของไทย (Sustainable Finance Initiatives for Thailand) ซึ่งแนวทางการขับเคลื่อนสำคัญ 5 ประการ คือ 1) Developing a Practical Taxonomy 2) Improving the Data Environment 3) Implementing Effective Incentives 4) Creating Demand-led Products and Services 5) Building Human Capital โดยสรุป ผู้ประกอบการไทยอาจพิจารณาใช้ประโยชน์จากความร่วมมือดังกล่าวในการพัฒนาด้านการเงินสีเขียวเพื่อบรรลุเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศและของโลกต่อไปในอนาคต
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์