จากปัญหาการลดลงอย่างรวดเร็ วของพื้นที่ป่าไม้ส่งผลให้ปริ มาณก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นอย่ างต่อเนื่อง รวมทั้งยั งทำลายความหลากหลายทางชี วภาพและที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ ของสัตว์ป่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) จึงร่วมกันรับผิดชอบปัญหาที่เกิ ดขึ้น เนื่องจากพื้นที่ป่าไม้ที่ถู กทำลายไปมีสาเหตุส่วนหนึ่ งมาจากความต้องการสินค้ าเกษตรของสหภาพยุโรป [su_spacer size=”20″]
ประเทศฝรั่งเศสจึงได้ ออกมาตรการต่อสู้ปัญหาการตัดไม้ ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่ าทั่วโลก โดยล่าสุดได้ประกาศ “ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการต่อสู้ กับการตัดไม้ทำลายป่ าจากการนำเข้า (The National Strategy Against Import Deforestation)” โดยกำหนดเป้าหมายจะยับยั้งการตั ดไม้ทำลายป่าที่เกิดจากการนำเข้ าสินค้าเกษตรหรือผลผลิตป่าไม้ที่ ไม่ยั่งยืนให้ได้ภายในปี 2573 [su_spacer size=”20″]
ยุทธศาสตร์ชาตินี้จะกระตุ้นให้ ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติ กรรมในการผลิตและการบริโภคเพื่ อลดการทำลายป่า โดยในช่วงแรกจะให้ความสำคัญกั บสินค้าเกษตรที่ส่งผลกระทบต่ อการทำลายป่าอย่างรุนแรง ได้แก่ ถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม เนื้อวัว ผลพลอยได้จากเนื้อวัว โกโก้ ยางธรรมชาติ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ส่วนในอนาคตยุทธศาสตร์ อาจขยายขอบเขตครอบคลุมไปสู่ผลิ ตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้ อมและสังคมอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ฝ้าย กาแฟ อ้อย ข้าวโพด กุ้ง ผลิตภัณฑ์จากการทำเหมืองแร่ เป็นต้น [su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดเป้าหมายการยกเลิ กการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพที่ส่ งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงที่ดิ นสูง สนับสนุนการให้ข้อมูลและชี้นำผู้ บริโภคให้หันมาซื้อสินค้าที่ยั่ งยืนผ่านระบบรับรองมาตรฐานสินค้ าหรือการติดฉลาก สนับสนุนโครงการวิจัยที่เกี่ ยวข้องกับการต่อสู้ปัญหาการตั ดไม้ทำลายป่าและฟื้นฟูระบบนิ เวศในประเทศกำลังพัฒนา แสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศและผลักดันให้แนวทางปฏิ บัติในการต่อสู้กับการตัดไม้ ทำลายป่าเป็นที่ยอมรับในระดั บสากล
มาตรการสำคัญในการต่อสู้กั บการตัดไม้ทำลายป่า
ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ ของฝรั่งเศสได้นำเสนอมาตรการที่ จะมีส่วนช่วยยับยั้งการนำเข้าสิ นค้าเกษตรและผลผลิตป่าไม้ที่ไม่ ยั่งยืน ดังนี้
(1) ทำความเข้าใจกับปั ญหาและผลกระทบจากการตัดไม้ ทำลายป่า เผยแพร่ข้อมูลให้ผู้มีส่วนเกี่ ยวข้องทราบและแนวทางรับมื อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น สนับสนุนการลงทุนในโครงการวิจั ยที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้ านการตัดไม้ทำลายป่า
(2) สนับสนุนเงินช่วยเหลื อประเทศกำลังพัฒนาเพื่อกระตุ้ นให้เกิดความตื่นตัวในการต่อต้ านการทำลายป่า โดยตั้งแต่ปลายปี 2561 ฝรั่งเศสจะให้เงินช่วยเหลือปีละ 60 ล้านยูโรเป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนโครงการที่เกี่ ยวข้องกับการบริหารจัดการอย่ างยั่งยืน การต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่า ฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้และการปลู กป่า ซึ่งจะช่วยให้ประเทศกำลังพั ฒนาที่ส่งออกสินค้าเกษตรไปยั งฝรั่งเศสสามารถพัฒนาการผลิตให้ สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ไม่ทำลายป่ า
(3) ตั้งเป้าลดการใช้เชื้อเพลิงชี วภาพรุ่นแรกในภาคขนส่งให้เหลื อไม่เกิน 7% ภายในปี 2563 และลดการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพที่ ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ ยนแปลงการใช้ที่ดินอย่างสูงให้ เหลือ 0% ภายในปี 2573 โดยหันมาสนับสนุนการใช้เชื้ อเพลิงชีวภาพขั้นสูง (advanced biofuels) และก๊าซชีวภาพเพิ่มขึ้น
(4) ลดการพึ่งพาการนำเข้าถั่วเหลือง สนับสนุนการผลิตพืชโปรตี นในประเทศและการใช้พืชสำหรั บอาหารสัตว์ที่หลากหลายมากขึ้น โดยให้ทำควบคู่ไปกับการพัฒนาพั นธุ์พืชและเทคนิคการเพาะปลู กและปรับปรุงการใช้อาหารสัตว์ โดยให้ใช้ปัจจัยการผลิตน้อยลง
(5) ภายในปี 2565 การจัดซื้อสินค้ าสาธารณะของประเทศสมาชิกฯ จะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกั บการตัดไม้ทำลายป่า (zero deforestation) โดยจัดทำคู่มือให้ความรู้แก่ผู้ จัดซื้อสินค้าสาธารณะถึงความเสี่ ยงจากการตัดไม้ทำลายป่าที่เกิ ดจากการนำเข้า (เช่น อาหาร สินค้าเกษตร) รวมทั้งแนวทางหลีกเลี่ยงและจำกั ดความเสี่ยง
(6) จัดตั้งเวทีระดับประเทศ (national platform) เพื่อหารือถึงการต่อสู้กับปั ญหาการตัดไม้ทำลายป่า สนับสนุนการดำเนินงานและติ ดตามการปฏิบัติตามข้อผูกพันไม่ ทำลายป่าของภาคเอกชน รวมทั้งทำหน้าที่เป็นศูนย์ รวบรวมเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกั บผลกระทบจากการทำลายป่า และแบ่งปันประสบการณ์หรื อแนวทางปฏิบัติที่ดีระหว่างกัน
(7) พัฒนาและเสริมสร้างระบบควบคุม การตรวจสอบย้อนกลับ การวิเคราะห์ความเสี่ยง และการเตือนภัย ซึ่งจะช่วยป้องกันการนำเข้าสิ นค้าที่มาจากกระบวนการผลิตอย่ างไม่ยั่งยืน
(8) กำหนดนโยบายกระตุ้นความต้ องการซื้อสินค้าที่ยั่งยืน โดยฝรั่งเศสวางแผนนำ “ฉลากไม่ทำลายป่า (zero deforestation label)” มาใช้ภายในปี 2563 ซึ่งจะช่วยผู้บริโภคในการตัดสิ นใจเลือกซื้อสินค้า
(9) การใช้ระบบรับรองมาตรฐาน (certification) จะช่วยป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า โดยมุ่งขยายการรับรองให้เป็นที่ ยอมรับและครอบคลุมสินค้าเพิ่มขึ้ น
(10) สนับสนุนการติดฉลากสิ่งแวดล้ อมแบบสมัครใจ โดยคำนึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิ นทางอ้อม และความหลากหลายทางชีวภาพตลอดทั้ งวัฏจักรชีวิตสินค้า
(11) ผนวกเป้าหมาย “zero deforestation” ในแผนการเกษตรภายในปี 2562 โดยเริ่มจากสินค้าเกษตรหลักที่ ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อป่า ได้แก่ สินค้าปศุสัตว์ (เนื้อวัว เนื้อลูกวัว นม สัตว์ปีก) น้ำมันพืช และพืชโปรตีน สำหรับสินค้าอื่นที่ไม่รวมอยู่ ในแผนการเกษตร เช่น โกโก้ ยางพารา และไม้จะต้ องกำหนดแผนงานเฉพาะเพื่อต่อสู้ กับปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าที่ เกิดจากการนำเข้า [su_spacer size=”20″]
การต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่ าไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากขาดความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ ดังนั้น ฝรั่งเศสจึงมุ่งผลักดันความสำคั ญของการต่อสู้กับปัญหาการตัดไม้ ทำลายป่าให้เป็นที่ยอมรับทั้ งในระดับภูมิภาค EU และนานาชาติ โดยจะผนวกแนวทางต่อสู้กั บการทำลายป่าเข้าเป็นส่วนหนึ่ งในร่างกฎระเบียบว่าด้ วยการนำเข้าวัตถุดิบที่ก่อให้ เกิดความเสี่ยงต่อป่า รวมทั้งเสริมสร้างความร่วมมื อระหว่างประเทศในการผลิ ตและการค้าสินค้าอย่างยั่งยืน โดยจะบรรจุอยู่ในข้อตกลงการค้ าทวิภาคีต่าง ๆ (bilateral trade agreement) [su_spacer size=”20″]
สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่ างประเทศ/สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์