งาน “The 3rd Diplomatic Exporter Summit” ได้จัดกิจกรรมให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจและการส่งออกของเปรูในปี 2566 และแนวโน้มปี 2567 โดยมีใจความสำคัญดังต่อไปนี้
“การส่งออกของเปรูสร้างสถิติใหม่ในปี 2566 ด้วยมูลค่า 64.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยตั้งข้อสังเกตว่าความสําเร็จเกิดจาก ภาคเหมืองแร่ อุตสาหกรรมการเกษตร และความสามารถในการส่งออกไปเอเชียที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.6 โดยเฉพาะจีน อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” —–นาย Julio Perez ประธานสมาคม ADEX กล่าว
นาย Gabriel Arrieta u Head of Economic Studies and Commercial Intelligence of ADEX Business and Economics Research Center (CIEN) ได้ให้ข้อมูลภาพรวมเศรษฐกิจเปรูใน ปี 2566 ไว้ดังนี้
เปรูมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจลดลงร้อยละ 0.6 และคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 ในปี 2567 โดยมี growth engine ที่สําคัญ คือ (1) การเพิ่มขึ้ของการลงทุนภาครัฐและเอกชน (2) การเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคการประมง และ (3) การฟื้นตัวของการบริโภคของภาคเอกชน ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม และการชะลอตัวของภาคการผลิตเหมืองแร่ก็ตาม
ในภาคการส่งออกปี 2566 เปรูส่งออกไปยัง 180 ตลาดทั่วโลก โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นสถิติที่ 64.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีบริษัทส่งออกทั้งสิ้น 8,450 บริษัท และมีการจ้างงานรวม 3.8 ล้านคน โดยประเทศที่เปรูมีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน สหราชอาณาจักร EU แคนาดา และอินเดีย สาขาที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) เหมืองแร่ อุปกรณ์การเกษตร และไฮโดรคาร์บอน ในขณะที่สาขาประมงมีมูลค่าการส่งออกปรับตัวลดลงสูงสุดถึงร้อยละ 52.1
โดยได้คาดการณ์การส่งออกปี 2567 ไว้ว่าเปรูจะสามารถส่งออกได้ 66.47 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโตร้อยละ 3.1 จากปีก่อน โดยสาขาที่น่าจะมีมูลค่าการส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ การประมง เสื้อผ้า โลหะ สิ่งทอ และสัตว์น้ํา ร้อยละ 4 ในขณะที่สาขาป่าไม้จะมีมูลค่าการส่งออกปรับตัวลดลงสูงสุดที่ร้อยละ 8.5
ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงต่อภาคการส่งออก ได้แก่ (1) ภาวะการถดถอยของเศรษฐกิจโลก (2) ความไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม (3) มาตรการกีดกันทางการค้า (4) ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน (5) ปัญหาความล่าช้าการก่อสร้างท่าเรือน้ําลึก Chancay และ (6) การหยุดชะงักของเส้นทางเดินเรือในทะเลแดง คลองสุเอซ และคลองปานามา
รวมทั้ง นาย Gabriel Arrieta ได้มีการกล่าวถึงเศรษฐกิจโลกไว้ว่าระหว่างปี 2543-2562 (ก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 3.8 และระหว่างปี 2565-2566 (หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 3.2 โดยคาดการณ์ว่า ปี 2567 เศรษฐกิจโลกจะมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 3.1 และมีมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 ในขณะที่ เศรษฐกิจ สหราชอาณาจักร จีน และลาตินอเมริกามีแนวโน้มปรับตัวลดลงทั้งหมด ยกเว้น EU ที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม เปรูกําลังให้ความสนใจกับตลาดเอเชียเป็นอย่างมาก โดยในช่วงท้ายของการนําเสนอข้อมูล ผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกแห่งเปรู (ADEX) ยังได้กล่าวถึงการนํานักธุรกิจเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก โดยเฉพาะ Thaifex Anuga Asia 2024 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่ประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงการให้ความสําคัญกับตลาดไทยและอาเซียน จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีสําหรับการขยายตลาดของนักธุรกิจไทยมายังเปรูได้มากยิ่งขึ้น
ข้อมูล : สถานเอกอัคราาชทูต ณ กรุงลิมา
เรียบเรียงโดย : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์