แม้มูลค่าการค้าของอินเดียโดยรวมจะขยายตัวแต่อินเดียยังคงขาดดุลการค้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่องและนำเข้ามากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2565 อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมอินเดียมีปริมาณการส่งออกมากขึ้นในปี 2565 เมื่อเทียบกับ 2564 โดยเฉพาะในภาคบริการที่ได้ดุลการค้า ในส่วนของการนำเข้า มีการเพิ่มการนำเข้าฝ้ายดิบ ปุ๋ย กระดาษสำหรับหนังสือพิมพ์ เยื่อไม้และเศษกระดาษ จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ส่งออกของไทย โดยเฉพาะกระดาษสำหรับหนังสือพิมพ์และ ปุ๋ย ซึ่งอินเดียต้องการเป็นอย่างยิ่งในฐานะประเทศส่งออกสินค้าเกษตรกรรม
เนื่องด้วยเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐฯ ชะลอตัว อีกทั้งผลกระทบจากสถานการณ์สู้รบในยูเครน อาจทำให้อินเดียพยายามมองหาคู่ค้าใหม่ และผลักดันการส่งออกมากขึ้น โดยเฉพาะกับอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพ แต่อินเดียยังขาดดุล (โดยเฉพาะไทย) หรือกับรัสเซียที่ถูกประเทศโลกตะวันตกใช้มาตรการ sanction ไม่ทำการค้าด้วย
ภาวะการค้าระหว่างประเทศของอินเดีย ประจำเดือนตุลาคม 2565 การส่งออกของอินเดียโดยรวม (สินค้าและบริการ) ในเดือนตุลาคม 2565 มีมูลค่า 58.36 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 4.03% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมปี 2564 ส่วนการนำเข้าเดือนตุลาคม 2565 มีมูลค่า 73.00 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 11.82% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม ปี 2564
*จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารกลางอินเดีย ข้อมูลภาคบริการเปิดเผยถึงเดือนสิงหาคม 2565 ในส่วนของข้อมูล ของเดือนกันยายนและตุลาคม 2565 เป็นเพียงการประมาณการ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการเปิดเผยข้อมูลครั้งต่อไป
จากข้อมูลข้างต้น การส่งออกสินค้าเดือนตุลาคม 2565 มีมูลค่า 29.78 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ หดตัวถึง 16.65% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า และถือว่ามีมูลค่าน้อยที่สุดในรอบ 20 เดือน สาเหตุมาจากอุปสงค์ที่ลดน้อยลงจากประเทศคู่ค้าที่สำคัญ อาทิ สหรัฐอเมริกาและเครือสหภาพยุโรป เพราะผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ลดน้อยลงเนื่องจากวิกฤติด้านต้นทุนด้านพลังงานที่ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น โดยรัฐบาลอินเดียกำลังมองหาตลาดคู่ค้าใหม่ที่ยังมีแนวโน้มอุปสงค์ที่ดี ได้แก่ ทวีปลาตินอเมริกาและเอเชียตะวันตก อีกหนึ่งสาเหตุของการส่งออกที่น้อยลงในช่วงเดือนตุลาคม สืบเนื่องจากมีเทศกาลใหญ่ของประเทศ ได้แก่ เทศกาล Diwali และ Dusshera ซึ่งแรงงานหยุดงานและเป็นเหตุให้การผลิตหยุดชะงัก ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 56.69 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มีมูลค่าน้อยที่สุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้น สืบเนื่องจากต้นทุนด้านพลังงานและ สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศ
ทั้งนี้ อินเดียนำเข้าปุ๋ยในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นถึง 161% เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า และกำลังเผชิญสภาวะขาดแคลนปุ๋ยอยู่ในขณะนี้เนื่องจากอินเดียนำเข้าปุ๋ยจากยูเครนและรัสเซียในปริมาณมาก และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อการนำเข้าอินเดีย อีกทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งส่งผลกระทบต่อต้นทุนผลิตทำให้ราคาปุ๋ยสูงขึ้น โดยราคาปุ๋ยในอินเดียพุ่งสูงขึ้นกว่า 30% ตั้งแต่ต้นปี 2022
ปัจจุบัน รัฐบาลช่วยเหลือโดยให้เงินอุดหนุนแก่เกษตรกรแต่เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอินเดียเป็นหนึ่งในประเทศเกษตรกรรมรายใหญ่ของโลกและปุ๋ยเป็นสินค้าที่จำเป็นอย่างต่อเนื่องต่อภาคการผลิต สภาวะขาดแคลนปุ๋ยของอินเดียในขณะนี้จึงเป็นโอกาสทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมในการส่งออก
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี
เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์