Sunday, June 8, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

ความคืบหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนีในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2564

23/07/2021
in ทันโลก, ยุโรป
0
9
SHARES
69
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

ความคืบหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์ยนต์ของเยอรมนีในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2564 แบ่งเป็น 2 ประเด็น ได้แก่

.

  1. อียูสั่งปรับกลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์ของเยอรมนี

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 คณะกรรมาธิการยุโรป ได้ประกาศว่าบริษัท BMW AG และบริษัท Volkswagen AG ได้ละเมิดกฎข้อบังคับกฎหมายห้ามการผูกขาดของอียู (EU-Antitrust Law) ฐานสมรู้ร่วมคิดกันจำกัดการแข่งขันใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดมลพิษสำหรับรถยนต์ดีเซลที่ผลิตใหม่ โดยอียูเรียกเก็บค่าปรับจากบริษัท Volkswagen AG เป็นเงิน 502 ล้านยูโร และบริษัท BMW เป็นเงิน 373 ล้านยูโร ทั้งนี้ อียูมองว่าการสมรู้ร่วมคิดดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคสูญเสียโอกาสในการซื้อรถยนต์ดีเซลที่ปล่อยมลพิษน้อย อย่างไรก็ดี บริษัท Daimler AG ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์ยี่ห้อ Mercedes Benz ไม่ได้ถูกอียูเรียกเก็บค่าปรับในฐานสมรู้ร่วมคิดแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทฯ ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการยุโรปในการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการสอบสวนประเด็นสมรู้ร่วมคิดกันจำกัดการแข่งขันใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดมลพิษสำหรับรถยนต์ดีเซลที่ผลิตใหม่

.

  1. แนวโน้มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี

เมื่อปี 2553 นาง Angela Merkel นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ตั้งเป้าผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนีให้ถึง 1 ล้านคัน ภายในปี 2564 โดยได้ตั้งงบประมาณจำนวนมากสำหรับสิทธิประโยชน์ในรูปของ Umweltbonus แก่ผู้ซื้อยานยนต์ไฟฟ้า อย่างไรก็ดี ในช่วงสิ้นปี 2563 จำนวนยานยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนียังไม่บรรลุเข้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ซึ่งต่อมารัฐบาลเยอรมันได้ขยายเวลาการให้เงินอุดหนุนในโครงการ Umweltbonus ไปจนถึงสิ้นปี 2564 และจะเปลี่ยนการให้เงินอุดหนุนจากรูปแบบ Umweltbonus เป็นโครงการ Innovationsprämie ในปี 2565 โดยจะเพิ่มเงินอุดหนุนจากเดิมเป็น 2 เท่า ซึ่งเงินอุดหนุนจะขึ้นอยู่กับราคารถยนต์ และชนิดของระบบขับเคลื่อนรถยนต์ โดยจะอยู่ระหว่าง 5,625-9,000 ยูโรต่อการซื้อยานยนต์ไฟฟ้า 1 คัน และจะสามารถขอรับเงินอุดหนุนได้จนถึงปี 2568 นอกจากนี้ ผู้ซื้อยานยนต์ไฟฟ้าจะยังได้รับการยกเว้นภาษีรถยนต์ (Motor Vehicle Tax) เป็นเวลา 10 ปี ด้วย ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ Federal Office for Economic Affairs and Export Control ณ เดือน มิถุนายน 2564 มีผู้ยื่นคำร้องขอรับเงินอุดหนุนยานยนต์ไฟฟ้าจำนวน 640,000 ราย และตามข้อมูลของกระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานของเยอรมนี รัฐบาลได้จ่ายเงินอุดหนุน ณ สิ้นปี 2564 แล้วถึง 1.25 พันล้านยูโร โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 การขอจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าพุ่งสูงถึงจำนวนเกือบ 149,000 คัน ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานของเยอรมนีประเมินว่าจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการจดทะเบียนในเยอรมนีน่าจะสูงถึง 7-10 ล้านคัน ภายในปี 2573 นอกจากนี้ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์ของเยอรมนียังได้ให้ความเห็นว่า การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้นจนสามารถนำไปสู่การบรรลุเป้าหมาย Greenhouse Gas Emission Neutrality ภายในปี 2573 ได้ โดยรัฐบาลเยอรมันจะต้องผลักดันให้มีการขยายสถานีชาร์จยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้มากถึง 1 ล้านสถานีด้วย

.

จะเห็นได้ว่า การที่อียูมีความเข้มงวดในการนำกฎหมายห้ามการผูกขาดมาใช้นั้นถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ บริษัท ผู้ส่งออก ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ สามารถเข้าไปจำหน่ายสินค้าและแข่งขันในตลาดอียู รวมถึงตลาดเยอรมันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ประเทศไทยนั้นมีศักยภาพในการผลิตและส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ นอกจากนี้ จากการที่รัฐบาลเยอรมันให้ความสำคัญกับด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่อาจพิจารณาปรับการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับค่านิยมสากลด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับรัฐบาลไทยที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญด้านนี้เช่นเดียวกัน โดยการประกาศให้เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) เป็นวาระแห่งชาติ และผู้ประกอบการยังสามารถพิจารณาเพิ่มการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าได้อีกด้วย

.

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน

Previous Post

เศรษฐกิจยูนนานครึ่งแรกของปี 2564 ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

Next Post

จีนประกาศพัฒนา 5 เมืองเป็นศูนย์การบริโภคระหว่างประเทศ

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post

จีนประกาศพัฒนา 5 เมืองเป็นศูนย์การบริโภคระหว่างประเทศ

Post Views: 432

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X