เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2564 นางคำจัน วงแสนบูน รองรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน สปป. ลาว และนาย Zhang Wenfeng รองผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท China Southern Power Grid (CSG) ร่วมลงนามสัญญาสัมปทานโครงการสายส่งไฟฟ้าแห่งชาติลาว (EDL-T) โดยมี ดร. สอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน สปป. ลาว และนาย Jiang Zaidong เอกอัครราชทูตจีนประจำสปป. ลาว พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน
.
สัญญาสัมปทานระบุให้รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) และ CSG ร่วมกันก่อตั้งบริษัทสายส่งไฟฟ้าแห่งชาติลาว (EDL-T) ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล สปป. ลาว เพื่อให้บริการส่งไฟฟ้าตั้งแต่ 230 กิโลโวลต์ขึ้นไป และเชื่อมโยงระบบสายส่งกับประเทศเพื่อนบ้าน
.
โดยการก่อตั้ง EDL-T ถือเป็นการใช้ศักยภาพของ สปป. ลาวและจีนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจนำไปสู่ความร่วมมือและการส่งเสริมกันในด้านต่าง ๆ เพื่อให้บริษัทเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือลาว – จีน ต่อไป โดยในปี 2564 นั้นเป็นปีครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตลาว – จีน และปีมิตรภาพลาว – จีน อีกด้วย ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการร่วมพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของลาว – จีน
.
นอกจากนี้ สปป. ลาว – จีนเป็นมิตรประเทศและประเทศยุทธศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระหว่างสองประเทศเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางรถไฟลาว – จีน โครงการทางด่วนนครหลวงเวียงจันทน์ – บ่อเต็น (ชายแดนลาว – จีน) ซึ่งส่งเสริมความเชื่อมโยงทางระบบคมนาคมขนส่งและระบบเศรษฐกิจของ สปป. ลาวและจีน รวมถึงประเทศในและนอกอนุภูมิภาค
.
จะเห็นได้ว่า สปป. ลาว นั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรพลังงาน ทำให้อุตสาหกรรมด้านพลังงานของ สปป. ลาว มีโอกาสในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งประเทศไทยเองมีการซื้อและนำเข้าพลังงานจาก สปป. ลาว เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันมีกระแสด้านการสนับสนุนพลังงานทางเลือกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานไฟฟ้า ประกอบกับการมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มากขึ้น ทำให้ต่อไปในอนาคตการนำเข้าพลังงานจาก สปป. ลาวอาจลดลง ทำให้ผู้ประกอบการที่ลงทุนในอุตสาหกรรม สปป. ลาว อาจพิจารณากระจายความเสี่ยงไปลงทุนในกลุ่มพลังงานทางเลือกได้ โดยประเทศไทยนั้นมีการสนับสนุนพลังงานทางเลือกเช่นเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย BCG Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์