ปัจจุบันภาคเอกชนเช็กกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างชาติและจนถึงกลางเดือน มี.ค. 2564 มีแรงงานต่างชาติสมัครเข้าทำงานในเช็กลดลง 30% อีกทั้ง การแพร่ระบาดฯ ได้ส่งผลให้กระบวนการคัดเลือกมีความล่าช้าเพิ่มขึ้นกว่า 2 – 3 สัปดาห์ ซึ่งภาคเอกชนมองว่าแรงงานต่างชาติในกลุ่มธุรกิจและอุตสาหกรรมบางประเภทไม่สามารถทดแทนได้ด้วยแรงงานท้องถิ่น ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความสนใจของแรงงานต่างชาติเดินทางมาทำงานในเช็กลดลงเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเช็กอยู่ในระดับสูงสุดในขณะที่มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อโควิด – 19 อยู่ในอันดับ 2 ของอียู ทำให้เช็กจึงถูกมองว่า เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงในเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ เมื่อสิ้นปี 2562 แรงงานต่างชาติในเช็กมีสัดส่วน 13% ของแรงงานทั้งหมดในประเทศ โดยแรงงานต่างชาติประมาณ 200,000 คน ได้เดินทางออกจากเช็กแต่ช่วง เม.ย. 2563 ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ โดยส่วนใหญ่ตัดสินใจยังไม่กลับมาเข้ามาทำงาน เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเข้าเมืองและค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการตรวจร่างกายที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการเข้าเมืองมีความยุ่งยากมากขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์การขาดแคลนแรงงานต่างชาติในเช็กรุนแรงขึ้นตามลำดับ
.
สาขาอาชีพที่ไม่เป็นที่นิยมของชาวเช็กและตำแหน่งงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนบุคลากร ได้แก่ ช่างเทคนิคและผู้ช่วยด้าน IT พนักงานที่ใช้ภาษาต่างประเทศ พนักงานขายที่มีความเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ไฟฟ้า ช่างทาสี ช่างเชื่อม และแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งอุตสาหกรรม การผลิต การก่อสร้าง และงานบริการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการจ้างงานแรงงานต่างชาติมากที่สุด โดยมีสัดส่วน 48% ของแรงงานทั้งหมด ซึ่งปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างชาติดังกล่าวนอกจากจะส่งผลให้เกิด ความล่าช้าในการพัฒนาธุรกิจของภาคเอกชนแล้ว ยังเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการชะลอการตัดสินใจเข้ามาลงทุน ในเช็กของนักลงทุนต่างชาติด้วย และในขณะเดียวกันมีภาคเอกชนเช็กจำนวนมากเริ่มพิจารณาที่จะย้ายฐานการผลิต ไปยังประเทศในภูมิภาคยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกควบคู่กับการที่หลายบริษัทเพิ่มการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบการผลิตเพื่อรับมือกับการขาดแคลนแรงงานในอนาคต ซึ่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลให้การลงทุนในด้าน digitization, industry 4.0 และ AI ที่จะถูกนำมาใช้แทนการจ้างแรงงานแบบดั้งเดิมเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
.
สภาอุตสาหกรรมเช็กและหอการค้าเช็กคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานในเช็กจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องต่อไป แต่จะปรับเพิ่มในอัตราชะลอตัวและไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากคาดว่ารัฐบาลจะคงการบังคับใช้มาตรการสนับสนุนการจ้างงาน เช่น Antivirus Programme ต่อไป โดยปัจจัยสำคัญเป็นเพราะใกล้ช่วงการเลือกตั้งทั่วไปที่กำหนดจะจัดขึ้นในเดือน ต.ค. 2564 ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องรักษาคะแนนเสียงและความนิยมจากประชาชน อย่างไรก็ดี หากการแพร่ระบาดฯ ยังไม่คลี่คลายและระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาดฯ ยังทรงตัวต่อไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2564 ในขณะที่อัตราการกระจายและการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนยังไม่มีความคืบหน้าตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ตลอดจนการยุติการให้ความช่วยเหลือและอุดหนุนการจ้างงานให้กับภาคเอกชนของรัฐบาล อาจส่งผลให้อัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นไปแตะที่ระดับร้อยละ 5 – 6 ภายในไตรมาสที่ 3/2564
.
จากบทความข้างต้น อาจเป็นโอกาสของแรงงานไทยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านช่างเทคนิค และผู้ช่วยด้าน IT พนักงานที่ใช้ภาษาต่างประเทศ พนักงานขาย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ไฟฟ้า ช่างทาสี ช่างเชื่อม และแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมหนัก อย่างไรก็ตาม หากแรงงานไทยได้รับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 แล้วย่อมเป็นการดีที่จะเข้าไปทำงานในเช็ค ซึ่งจะเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด -19 ได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ แรงงานไทยควรติดตามข้อมูลข่าวสาร นโยบายของรัฐบาลเช็คในเรื่องการอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าทำงานในเช็คด้วย
.
สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงปราก