ปัจจุบันนี้เทคโนโลยี 5G มีบทบาทสําคัญในการขับเคลื่อนสังคมและยกระดับเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ให้ก้าวหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาเมืองให้เป็น Smart City ซึ่งการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีนับเป็นจุดเปลี่ยนที่สําคัญของแต่ละประเทศ เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อการใช้ชีวิตประจําวันของมนุษย์ ตลอดจนเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนั้น การเปลี่ยนผ่านทางสังคมไปพร้อมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่จึงเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่บ่งบอกว่าประเทศนั้นกําลังเข้าสู่การพัฒนา
.
เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัท Opensignal ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบเครือข่ายสัญญาณมือถือระดับโลก ได้เปิดเผยสถิติอันดับความเร็วดาวน์โหลด (Download speed) 5G ของโลก ซึ่งไต้หวันได้รับการจัดอันดับความเร็วดาวน์โหลดอินเตอร์เน็ต 5G อยู่ที่อันดับ 3 ของโลก ซึ่งสามารถวัดความเร็วดาวน์โหลดได้ อยู่ที่ 272.2 เมกะบิต (Mbps) ต่อวินาที เป็นรองเพียงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งมีความเร็วอยู่ที่ 202.2 เมกะบิต และ เกาหลีใต้ 354.4 เมกะบิต
.
หากเปรียบจากสถิติในปีก่อนจะเห็นว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยี 5G ในไต้หวันได้พัฒนาก้าวขึ้นไปอีกระดับ จากเดิมที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 4 ของโลก ซึ่งนอกเหนือจากสถิติด้านความเร็วดาวน์โหลดแล้ว ยังมีสถิติในด้านอื่น ๆ อีกที่ไต้หวันติดอันดับโลก อาทิ Video Game และ Voice App experience นอกจากนี้สํานัก ข่าว CNA ได้เปิดเผยจํานวนผู้ใช้งาน 5G ของไต้หวันในปัจจุบัน ว่าไต้หวันได้เริ่มเปิดให้ใช้บริการ 5G ใน เดือน ก.ค.ปี 2020 ซึ่งภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน มีผู้ใช้งาน 5G แล้วมากกว่า 1 ล้านคน โดยในขณะนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่าค่ายบริการมือถือชั้นนําของไต้หวันอย่าง จงหัวเทเลคอม (Chunghwa Telecom Co) ฟาร์อิสต์โทน (Far EasTone Telecommunications Co) ไต้หวันสตาร์ (Taiwan Star Telecom Corp) มีลูกค้าที่ใช้บริการ 5G รวมกันมากกว่า 1.5 ล้านคน ดังนั้นเมื่อดูจํานวนการใช้งาน 5G ของประชากรในประเทศแล้ว พบว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไต้หวันกําลังพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปีนี้ไต้หวันจะมีการผลักดันอุตสาหกรรมทางด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ 5G ให้กลายเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมหลักของประเทศ
.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไต้หวัน นางหวัง เหม่ยฮวา ได้ให้สัมภาษณ์กับสํานักข่าว CNA ว่าการเข้ามาของเทคโนโลยีชนิดใหม่อย่าง 5G เป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สําคัญที่จะสร้างความมั่นคงให้แก่ ไต้หวัน ทั้งนี้ แต่เดิมไต้หวันถูกจัดให้เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน Semiconductor ที่สําคัญระดับโลกอยู่แล้ว นําโดยบริษัท TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยผลิตให้แก่แบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Apple Huawei NVIDIA และอื่น ๆ โดยนางหวังเห็นว่าในยุคสมัยที่เทคโนโลยี 5G เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรา ทําให้การทํางานต่าง ๆ ใช้เวลาน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ที่สูงขึ้น ซึ่งพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของมนุษย์จะทําให้ธุรกิจ semiconductor และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไต้หวันขยายตัวมากขึ้น จุดแข็งของไต้หวันในตอนนี้คือการใช้ทรัพยากรคนให้น้อยที่สุดแต่ได้ผลลัพธ์มากที่สุดด้วยเทคโนโลยี
.
การก้าวหน้าของ 5G จะทําให้ไต้หวันก้าวขึ้นไปเป็นผู้นําทางด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในระดับโลก เนื่องจากความต้องการชิปของตลาดอุตสาหกรรมรถยนตร์ อินเตอร์เน็ต และอื่น ๆ จะมีมากขึ้นในทุก ๆ วัน อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไต้หวันจะเปลี่ยนไป จะเกิดสิ่งประดิษฐ์ขึ้นจากการทํางานของเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมแขนงต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมการคมนาคมของไต้หวัน ไต้หวันโมบายได้ร่วมมือ กับบริษัท Startup อย่าง iAuto ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีการขนส่งไร้คนขับหรือ Self-Driving Transport เพื่อร่วมมือกันพัฒนายานพาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีจาก 5G ซึ่งการร่วมมือกันของทั้งสองบริษัทนี้ จะทําให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ขึ้น อย่างรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งจะทําให้ลดต้นทุนทรัพยากรบุคคลลงโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่
.
อีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่น่าสนใจคือ อุตสาหกรรมบันเทิง ทาง Far Eastone หนึ่งในผู้ให้บริการ 5G ของ ไต้หวันได้ให้ความสําคัญกับอุตสาหกรรมบันเทิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแส K-pop ที่ได้รับความนิยมในตลาดไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นทาง Far Eastone จึงได้เปิดตัวฟีเจอร์ตัวใหม่อย่าง friDay ซึ่งเป็นฟีเจอร์สําหรับดูไลฟ์คอนเสิรต์หรือวีดีโอโดยเฉพาะ โดยฟีเจอร์นี้ได้นําเทคโนโลยี 5G เข้ามาใช้ โดยผู้ใช้งานสามารถสลับมุมกล้องได้ตามที่ตนเองต้องการ ปรับเปลี่ยนมุมกล้องและเลือกดูเฉพาะศิลปินที่ตนเองชื่นชอบได้ ซึ่ง การสลับมุมกล้องไปมานั้นจําเป็นต้องใช้ความเสถียรและความเร็วของอินเตอร์เนตในการรับชม ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ 4G ไม่สามารถทําได้ นอกจากอุตสาหกรรมที่กล่าวในข้างต้นแล้ว อุตสาหกรรมทางด้านอื่น ๆ ที่ใช้เทคโนโลยี 5G เข้ามาช่วยเหลือ เช่นHealthcare และ E-commerce ดังนั้นจากจุดเด่นข้างต้น จะส่งผลให้ไต้หวันมีอํานาจต่อรองทางเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งนางหวังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรม 5G และ การผลิตเชิงนิเวศร่วมกับนโยบาย Smart City จะเป็นเสาหลักสําคัญของเศรษฐกิจไต้หวันในอนาคต
.
ปฏิเสธไม่ได้ว่าศักยภาพของเทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในมิติด้านต่าง ๆ ของไทย ซึ่งจะส่งผลไปสู่การพัฒนาประเทศไปสู่สังคม Smart City มากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการไทยอาจเรียนรู้การนำเคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้ หรือพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อรองรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสื่อสาร โดยอาจพิจารณาทำผ่านการเผยแพร่ Soft power ในอุตสาหกรรมบันเทิง ซึ่งจัดเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ประเทศไทยมีขีดความสามารถที่จะต่อยอดพัฒนาต่อได้ในอนาคต โดยการนำเทคโนโลยี 5G เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อการนำเสนอที่ทันสมัยและทันกับโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น
.
สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป