Tuesday, June 17, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

เปรียบเทียบความคุ้มค่าของการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล กับ สิงคโปร์

18/02/2021
in ทันโลก, เอเชีย
0
1
SHARES
313
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 หนังสือพิมพ์ The Business Times ได้นำเสนอบทความที่เขียนโดยนาย Peter Janssen ผู้สื่อข่าวประจำประเทศไทย มีเนื้อหาเกี่ยวกับแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลซึ่งให้ความเห็นว่าการพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าดังกล่าวจะไม่คุ้มค่าในระยะยาวอันเนื่องมาจาก (1) ปัจจัยทางเศรษฐกิจของไทย ที่หดตัว 6.5% ในปี 2563 จากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 และน่าจะฟื้นตัวและขยายตัวเพียง 4% ในปี 2564 (2) ปัญหาสังคมผู้สูงอายุ และ (3) การกำหนดเส้นทางเดินรถผ่านพื้นที่ที่มีประชากรไม่หนาแน่น บทความจึงตั้งคำถามโดยอ้างอิงนักเศรษฐศาสตร์/นักวิจัยของไทยว่า โครงการพัฒนารถไฟฟ้าฯ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐของไทยจะเกิดความคุ้มค่าหรือไม่

.

การพัฒนาระบบรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ (BTS SkyTrain) เริ่มขึ้นเมื่อปี 2543 โดยเริ่มจากพื้นที่เศรษฐกิจและธุรกิจสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ จากนั้นได้ขยายไปสู่บริเวณเขตที่อยู่อาศัยทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยในปัจจุบันระบบรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร มีระยะทางรวมประมาณ 180 กิโลเมตร และมีแผนจะขยายระยะทางเป็น 560 กิโลเมตร ภายในปี 2572 (ตามแผนแม่บทระยะ 20 ปี) ซึ่งยาวกว่าระบบรถไฟฟ้าในกรุงลอนดอน สหราอาณาจักร (London’s Tube) ที่มีระยะทาง 420 กิโลเมตร ซึ่งบทความได้วิเคราะห์ว่าโครงการพัฒนารถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลของไทยจะไม่คุ้มค่าในระยะยาว เนื่องจากปัจจัย (1) การประกาศปรับอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านใจกลางเมือง) ตลอดสาย เป็นเงิน 104 บาท จะทำให้มีผู้ใช้บริการน้อยลง (2) ระบบเชื่อมต่อระหว่างสถานีชุมทางยังไม่มีประสิทธิภาพ (เท่ากับระบบเชื่อมต่อของสิงคโปร์) และ (3) การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยปัจจุบันไทยมีประชากรอายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 12 ล้านคน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านคนในปี 2583 ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่นิยมการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า

.

ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ผู้เขียนตั้งข้อสังเกต คือ นับตั้งแต่ปี 2541 – 2560 ราคาที่ดินโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าในเมือง (สายสีเขียว) เพิ่มสูงขึ้นถึง 10 เท่า และราคาคอนโดมิเนียมในรัศมี 800 เมตรจากสถานีฯ ในเมืองสูงขึ้น 10% ต่อปี ซึ่งต่างจากสถานีรถไฟฟ้านอกเมือง (สายสีม่วง) ที่ส่วนใหญ่มีประชากรไม่หนาแน่นมากพอที่จะพัฒนารถไฟฟ้าแล้วเกิดความคุ้มทุน ทั้งยังมีปริมาณคอนโดมิเนียมมากกว่าความต้องการจริง ดังนั้น ผู้เขียนจึงประเมินว่าในอนาคต ผู้โดยสารที่อาศัยอยู่นอกเมืองจะใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางเข้าเมืองไปทำงานในเมืองไม่มากนัก

.

ในส่วนของสิงคโปร์นั้น ปัจจุบันมีระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน 2 ระบบ ได้แก่ (1) Mass Rapid Transit (MRT) เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2530 และพัฒนาเป็น 6 สายรอบประเทศ ประกอบด้วยสถานี 130 แห่ง ระยะทางรวม 230 กม. (ยังไม่รวมเส้นทางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีผู้ใช้บริการ 3,000,000 คน/วัน และ (2) Light Rail Transit (LRT) หรือระบบรถไฟฟ้ารางเบาเพื่อเชื่อมเขตเมืองใหม่ที่มีผู้อาศัยอยู่ไม่หนาแน่นกับ MRT เข้าสู่ตัวเมือง เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2543 ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 สาย ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกของสิงคโปร์ ประกอบด้วยสถานี
40 แห่ง ระยะทางรวมทั้งสิ้น 28 กิโลเมตร โดยมีผู้ใช้บริการประมาณ 200,000 คน/วัน

.

กรมการขนส่งทางบกสิงคโปร์ (Land Transport Authority – LTA ) วางแผนการขยายเส้นทางระบบ MRT อีก 50% โดยจะมีระยะทางรวม 360 กิโลเมตร ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030) ตามหลักการเข้าถึงได้ง่ายและสะดวก คือ ให้ประชาชนทุกคนสามารถเดินจากบ้านพักไปยังสถานี MRT ได้ภายใน 10 นาที อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2563 นาย Khaw Boon Wan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ (ในขณะนั้น) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า แผนการดังกล่าวอาจล่าช้าไปบ้างเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่รัฐบาลสิงคโปร์ จะยังคงดำเนินโครงการขยายเส้นทาง MRT ต่อไป นอกจากนี้ LTA ได้เตรียมรื้อถอนตู้โดยสารรถไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท Kawasaki ของญี่ปุ่นออก เนื่องจากใช้งานมาแล้วมากกว่า 30 ปี และจะนำตู้โดยสารใหม่ของบริษัท Bombardier ของแคนาดามาทดแทนในเร็วๆ นี้

.

สำหรับการเก็บค่าโดยสารในสิงคโปร์ ผู้โดยสารจะชำระผ่านบัตร EZ-link ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ทั้งหมดในสิงคโปร์ โดยคำนวณค่าโดยสารตามระยะทาง เริ่มต้นที่เพียง 0.42 ดอลลาร์สิงคโปร์ (หรือประมาณ 9.45 บาท) ทั้งยังมีระบบส่วนลดค่าโดยสารเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนใช้บริการขนส่งมวลชนให้มากที่สุด กล่าวคือ ผู้โดยสารที่เดินทางด้วยขนส่งมวลชนหลายประเภทอย่างต่อเนื่องในเวลาที่กำหนด จะได้รับส่วนลดค่าโดยสารมากขึ้นไปด้วย (เช่น โดยสารรถไฟ LRT ไปต่อรถไฟ MRT หรือ โดยสารรถไฟ MRT ไปต่อรถประจำทางเป็นต้น)

.

สิงคโปร์ได้ออกแบบระบบขนส่งสาธารณะให้ผู้ใช้บริการปราศจากอุปสรรคในการเดินทาง เช่น ทางลาดสำหรับรถเข็นและลิฟต์โดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกเด็ก ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้มีสัมภาระ และผู้มีปัญหาสุขภาพ รวมถึงการสร้างสถานีเพื่อเชื่อมต่อชุมทางรถประจำทางเข้ากับรถไฟฟ้า (Bus Interchange) เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในเขตพักอาศัยหนาแน่น โดยมีศูนย์อาหารและห้างสรรพสินค้าบริเวณโดยรอบสถานีชุมทางดังกล่าวด้วย อีกทั้งรัฐบาลสิงคโปร์ได้มีการรวบรวมข้อมูลสถิติจำนวนผู้โดยสารในแต่ละช่วงเวลาและเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ (Startup) นำข้อมูลไปพัฒนา Application ใหม่ๆ ที่ตอบสนองรูปแบบชีวิตทันสมัยในปัจจุบัน ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการคมนาคม/ขนส่งทางบกแบบครบวงจรใน Application เดียว

.

การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะสิงคโปร์แสดงให้ถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการอำนวยความสะดวกประชาชนให้สามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วและตรงเวลามากยิ่งขึ้น ด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพให้เข้ามาพัฒนาระบบขนส่งยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจขนาดย่อมได้เข้ามามีโอกาสในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมทั้งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ในส่วนของประเทศไทย หากผู้ประกอบการสตาร์ทอัพได้เข้ามามีบทบาทเช่นเดียวกับการดำเนินการของสิงคโปร์ ธุรกิจขนาดย่อมของไทยก็สามารถพัฒนารถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลของไทย รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะให้เอื้อประโยชน์ต่อการใช้งานของประชาชนได้อย่างคุ้มค่าในระยะยาวแน่นอน

.

ข้อมูลอ้างอิง

.

The Business Times. Bangkok’s expanding mass transit yields mixed economic benefits [ออนไลน์]. 2021, แหล่งที่มา : https://www.businesstimes.com.sg/transport/bangkoks-expanding-mass-transit-yields-mixed-economic-benefits

.

The Straits Times. MRT network expansion plans to be delayed, will still reach 360km by early 2030s: Khaw Boon Wan [ออนไลน์]. 2020, แหล่งที่มา : https://www.straitstimes.com/singapore/transport/mrt-network-expansion-plans-to-be-delayed-will-still-reach-360km-by-early-2030s

.

สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์

Previous Post

ติดตามผลกระทบของ COVID-19 ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากการสัมมนาออนไลน์ของ UNWTO

Next Post

อียูออกรายงานการคาดการณ์เศรษฐกิจ ฉบับฤดูหนาวปี 2564

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post

อียูออกรายงานการคาดการณ์เศรษฐกิจ ฉบับฤดูหนาวปี 2564

Post Views: 983

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

สิงคโปร์พัฒนานวัตกรรมปลูกข้าวยั่งยืน ลดก๊าซมีเทน เพิ่มผลผลิต

สิงคโปร์พัฒนานวัตกรรมปลูกข้าวยั่งยืน ลดก๊าซมีเทน เพิ่มผลผลิต

15/06/2025
จีนเปิดเที่ยวบินคาร์โก้เชื่อมกุ้ยหยาง–กรุงเทพฯ ส่งเสริมโลจิสติกส์ข้ามพรมแดน

จีนเปิดเที่ยวบินคาร์โก้เชื่อมกุ้ยหยาง–กรุงเทพฯ ส่งเสริมโลจิสติกส์ข้ามพรมแดน

14/06/2025
Active packaging: โซลูชันลดสารปรอทในปลาทูน่ากระป๋อง

Active packaging: โซลูชันลดสารปรอทในปลาทูน่ากระป๋อง

12/06/2025
เกาหลีใต้เปิดตัวแผนสร้างเรือบรรทุกไฮโดรเจนเหลวใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2570

เกาหลีใต้เปิดตัวแผนสร้างเรือบรรทุกไฮโดรเจนเหลวใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2570

12/06/2025
กัมพูชาจัดพิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินเอมิเรตส์ที่เมืองเสียมราฐ

กัมพูชาจัดพิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินเอมิเรตส์ที่เมืองเสียมราฐ

12/06/2025
เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์กับความทนทานต่อค่าเงินแข็ง

เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์กับความทนทานต่อค่าเงินแข็ง

11/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X