GDP ของรัสเซียในไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 มีอัตราเติบโตเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 1.6 ก่อนที่จะดิ่งลงในไตรมาสที่ 2 ที่อัตราติดลบร้อยละ 8 ขณะที่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 เริ่มหดตัวลดลงติดลบร้อยละ 3.8 เนื่องจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจของรัสเซียที่ไม่เน้นภาคบริการมากนักจึงยังไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เท่าประเทศที่เน้นอุตสาหกรรมบริการ และคาดว่าความสําเร็จในการผลิตวัคซีนป้องกัน COVID-19 ของรัสเซียจะมีส่วนสําคัญในการพยุงเศรษฐกิจ หากวัคซีนรัสเซียได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ทั้งนี้ ภาพรวมของปี 2563 คาดว่าเศรษฐกิจรัสเซียน่าจะหดตัวร้อยละ 4 – 5 (IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวประมาณร้อยละ 4.4)
ด้านนโยบายการเงิน ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนของรัสเซียที่มีค่าเงินอ่อนตัวจากวิกฤตราคาน้ำมันช่วงต้นปีและการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทําให้ในปีนี้ ธนาคารกลางรัสเซียทุ่มขายเงินสกุลต่างชาติครั้งละประมาณ 1 หมื่นล้านรูเบิลถึง 2 ครั้งเมื่อวันที่ 10 มีนาคม และ 6 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา เพื่อพยุงค่าเงินรูเบิล โดยรัสเซียยังมีทองคําเกือบ 2,300 ตันและเงินสํารองต่างชาติเกือบ 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 มากจนติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ซึ่งช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจลงได้บ้าง แต่หากวิกฤตเศรษฐกิจมีความยืดเยื้อหรือราคาน้ำมันตกต่ำอีกครั้ง เสถียรภาพของเงินสํารองของรัสเซียอาจได้รับผลกระทบได้
สำหรับการอ่อนตัวของรูเบิลทําให้รัสเซียมีรายได้จากการส่งออกพลังงานมากขึ้น โดยรายได้เหล่านี้คิดเป็นประมาณร้อยละ 30 – 50 ของงบประมาณภาครัฐในแต่ละปี ดังนั้น แม้ความต้องการ (demand) พลังงานในตลาดโลกจะลดลงในช่วง COVID-19 แต่รายได้ของรัฐบาลรัสเซียที่มีหน่วยเป็นรูเบิลลดลงน้อยกว่ายอดขายพลังงาน จึงช่วยบรรเทาการขาดดุลงบประมาณในยามที่รัฐบาลพยายามดําเนินนโยบายอุดหนุนอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้
ภาคอุตสาหกรรมรัสเซียหดตัวต่อเนื่องยาวนาถึง 14 เดือน ซึ่งยาวนานกว่าผลของการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกในปี 2557 และแม้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2563 ภาคอุตสาหกรรมบางส่วนจะฟื้นตัวได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมแปรรูป ขณะที่อุตสาหกรรมทรัพยากรที่เป็นส่วนสําคัญของเศรษฐกิจรัสเซียยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก
นอกจากนี้ การลงทุนในรัสเซียจะหดตัวประมาณร้อยละ 10 – 12 ในปีนี้ โดยเดือนมกราคม – กันยายน 2563 การลงทุนจากต่างประเทศมายังรัสเซียหดตัว 5 เท่าจากปี 2562 และเงินลงทุนไหลออกจากรัสเซียเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 65.9 จากปี 2562 และน่าจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมรัสเซียในระยะยาว
เดิมรัสเซียมีโครงการ National Project ที่ใช้งบประมาณ 406.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อหวังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิตภายในปี 2567 แต่ผลกระทบของ COVID-19 ทําให้รัสเซียตัดสินใจเลื่อนกรอบเวลาดําเนินโครงการไปเป็นปี 2573 และ จัดทําแผน Economic Recovery Plan ที่ใช้งบประมาณ 84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรัสเซียให้สามารถเติบโตได้ร้อยละ 3 ภายในปี 2564
สถานกงสุลใหญ่ ณ กรุงมอสโก