รายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (United States Department of Agriculture: USDA) คาดว่า ฟิลิปปินส์จะยังคงเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2563 แม้ว่าแนวโน้มการนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์จะชะลอตัวลง โดยอาจนำเข้าข้าวปริมาณ 2.5 ล้านตัน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 13.8 นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) เผยว่า แนวโน้มการค้าข้าวโลกจะชะลอตัวลงในหลายประเทศ เช่น อียิปต์ กินี เคนยา และฟิลิปปินส์
[su_spacer]
USDA ปรับลดประมาณการจากเดิมคาดว่าฟิลิปปินส์จะนำเข้าข้าวได้มากถึง 2.7 ล้านตัน มาเป็น 2.5 ล้านตัน เนื่องจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ปรับลดปริมาณนำเข้าข้าวจากต่างชาติ ตลอดจนได้พยายามทุ่มเทงบประมาณจำนวนมากเพื่อปรับปรุงผลผลิตข้าวในประเทศในปีนี้ และ USDA ได้คาดการณ์ว่า จีนจะยังเป็นผู้นำเข้าข้าวอันดับ 2 ของโลก โดยมีปริมาณนำเข้าข้าว 2.3 ล้านตันในปีนี้
[su_spacer]
นอกจากนี้ ในปี 2562 ฟิลิปปินส์ได้กลายมาเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกแซงหน้าจีนที่เคยเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกมาก่อน โดยฟิลิปินส์มีปริมาณนำเข้าข้าวอยู่ที่ 2.9 ล้านตัน ซึ่งเป็นผลจากการประกาศใช้กฎหมายการเปิดเสรีนำเข้าข้าวในปี 2562 ผ่านมา ซึ่งบังคับใช้เพื่อสามารถนำเข้าข้าวได้มากขึ้นและเพื่อราคาข้าวในประเทศมีราคาลดลง โดยการนำเข้าข้าวของฟิลิปปินส์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 4 เท่า และเป็นคิดเป็นร้อยละ 7 ของการนำเข้าข้าวของโลก
[su_spacer]
ทั้งนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์จะดำเนินมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าว รวมทั้งการช่วยเหลือผ่านกองทุนพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมข้าวของฟิลิปปินส์ (Rice Competitiveness Enhancement Fund) ในวงเงิน 10 พันล้านเปโซฟิลิปปินส์ต่อปี อย่างไรก็ดี กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวในประเทศจะเพิ่มเป็น12 ล้านตัน ส่วนการบริโภคข้าวในประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 14.4 ล้านตัน จาก 14.1 ล้านตันในปี 2562
[su_spacer]