อีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยี 5G บริษัท Etisalat ประสบความสำเร็จในการสร้าง 5G แบบ End-to-End ประเภท “Standalone (SA)” ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และกลายเป็นผู้ให้บริการรายแรกในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA)
[su_spacer]
ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์โดยรวมและวิสัยทัศน์ของ ‘การขับเคลื่อนอนาคตดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างพลังทางสังคม (Driving the Digital Future to Empower Societies)’ บริษัท Etisalat ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำของตนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลเป็นมาตรฐานในระดับภูมิภาค การประกาศความสำเร็จดังกล่าว เป็นผลมาจากการทดสอบการดำเนินการของผู้ให้บริการ 3.5GHz ที่มีคลื่นความถี่ 100MHz ด้วยการใช้ Standalone (SA) สำหรับสมาร์ทโฟน ในปริมาณที่มากกว่า 1.5Gbps สำหรับการดาวน์โหลด และ 200Mbps สำหรับความเร็วในการอัพโหลด
[su_spacer]
5G ประเภท Standalone (SA) ไม่ได้ใช้ 4G LTE สำหรับฟังก์ชั่นการควบคุมใด ๆ ของ 5G ซึ่งต่างจาก 5G ประเภท Non-Standalone (NSA) ซึ่งข้อได้เปรียบที่สำคัญของ 5G แบบ Standalone (SA) คือ ความสามารถของการใช้เวลาสำหรับการแบ่งเครือข่ายและการประมวลผลของแต่ละโปรแกรมน้อยกว่าแบบ Non-Standalone (NSA)
[su_spacer]
Saeed Al Zarouni รองประธานอาวุโสเครือข่ายมือถือของ Etisalat กล่าวว่า “Etisalat เป็นผู้นำในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาสู่เครือข่าย 5G โดยได้ปูทางในแง่ของการเปิดตัวเครือข่ายและบริการในปัจจุบัน การประกาศเป็นอีกหนึ่งมาตรฐานในยูเออี และ MENA ดังนั้น ความสำเร็จครั้งนี้ได้วางตำแหน่งยูเออีในแพลตฟอร์มระดับโลก ทำให้มีโอกาสที่จะแบ่งปันประสบการณ์และเป็นตัวอย่างสำหรับผู้ประกอบการอื่น ๆ ในภูมิภาค”
[su_spacer]
“การเปิดตัว 5G แบบ Standalone (SA) จะช่วยให้แอปพลิเคชั่นของการใช้งาน 5G ในอุตสาหกรรม เพิ่มประสิทธิภาพความสามารถของเครือข่าย นอกจากนี้ ยังช่วยให้การจัดหาเครือข่าย 5G สำหรับเทคโนโลยีอัตโนมัติ และ AI”
[su_spacer]
ความพยายามของ Etisalat ในการสร้างเครือข่าย 5G ที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถอัปเกรดซอฟต์แวร์จาก NSA ไปจนถึงเทคโนโลยีแบบ SA ได้ด้วยความมุ่งมั่นของ Etisalat เพื่อให้แน่ใจว่าความสามารถของ 5G นั้น สามารถจับต้องได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้จัดการการอัพเกรดและการโยกย้ายจาก Non-Standalone (NSA) ไปยัง Standalone (SA) ได้อย่างราบรื่น
[su_spacer]
ความสำเร็จของ Etisalat ในการพัฒนา 5G เกิดจากการวางแผนระยะยาวและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยการทดลองครั้งแรกและการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เริ่มต้นจนถึงปี 2014 ทั้งนี้ Etisalat ได้กำหนดมาตรฐานที่สำคัญในอุตสาหกรรม โดยการเป็นผู้ดำเนินการด้านโทรคมนาคมแห่งแรกใน MENA ในเดือนพฤษภาคม 2018 เพื่อเปิดตัวเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ พร้อมให้บริการไร้สายคงที่ในยูเออีอีกทั้งยังได้รับแรงบันดาลใจจากการค้นพบครั้งสำคัญในการพัฒนา 5G โดยการเชื่อมต่อและร่วมมือกับ Expo 2020 ในฐานะลูกค้ารายใหญ่รายแรกภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียใต้ (MEASA) เพื่อเข้าถึงบริการ 5G
[su_spacer]
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา Etisalat เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายแรกใน MENA เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับพลังของเครือข่าย 5G และเปิดตัวโทรศัพท์ 5G ตัวแรกก่อนใคร
[su_spacer]
Etisalat ได้กลายเป็นผู้ดำเนินการด้านโทรคมนาคมแห่งแรกใน MENA เพื่อให้บริการครอบคลุม 5G ในอาคารที่ถูกเลือกในประเทศ เช่น สนามบินอาบูดาบีกลายเป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศแห่งแรกที่ขับเคลื่อนด้วยการเชื่อมต่อ 5G ความเร็วสูงพิเศษในร่ม เป็นต้น
[su_spacer]