มาถึงบทความตอนสุดท้ายของประสบการณ์และบทเรียนที่ได้รับจากผู้ประกอบการ OTOP กว่า 20 บูท ภายในเทศกาลไทย ณ กรุงฮานอย ประจำปี 2562 ที่เกิดขึ้นไปเมื่อวันที่ 23 – 25 สิงหาคม 2562 พร้อมกับโครงการ Big Impact, Thai Festival 2019: Local Best, Global Taste สินค้าดีทั่วไทย ก้าวไกลทั่วโลก ที่เป็นการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย
[su_spacer]
การจัดงานเทศกาลไทยของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ในพื้นที่ศูนย์การค้าย่านชุมชนใหม่ของ กรุงฮานอย เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการของไทย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า OTOP ชุมชน ได้มีโอกาสนำเสนอสินค้าไทยที่มีคุณภาพต่อผู้บริโภคชาวเวียดนามทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งได้ต่อยอดสร้างเครือข่ายธุรกิจกับผู้แทนบริษัทนำเข้าเวียดนามอีกด้วย ซึ่งจากการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าตลอดทั้งสามวัน พบว่า สินค้าที่ผลิตในประเทศไทยเป็นที่นิยมในประเทศเวียดนาม เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี ราคาไม่แพง ทำให้ชาวเวียดนามที่เป็นประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ให้ความสนใจและไม่ลังเลที่จะจับจ่ายซื้อไปบริโภค ผู้ประกอบการ OTOP ที่ไปจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าในงานเทศกาลไทยส่วนใหญ่ได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม หลายรายสามารถจำหน่ายสินค้าที่เตรียมไว้เกือบหมดภายในวันแรกหรือวันที่สอง โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอุปโภคและบริโภค ผู้ประกอบการสินค้า OTOP หลายรายได้มาจัดแสดงสินค้าที่เวียดนามเป็นครั้งแรก กล่าวว่า ได้เรียนรู้ว่าผู้บริโภคเวียดนามต้องการสินค้าแบบไหน โดยมองว่าสินค้าบริโภค และเครื่องปรุงของไทยยังมีโอกาสในตลาดเวียดนาม เพราะตลาดเวียดนามมีแต่เครื่องปรุง ไม่หลากหลาย และมีรสชาติไม่จัดมาก ทำให้ผู้ประกอบการไทยที่ขายสินค้าน้ำพริกหรือเครื่องแกงไทยต่าง ๆ ประสบความสำเร็จในงานเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ สินค้าที่ขายดีในงานคือ ขนมเปี๊ยะไส้ทุเรียน ทุเรียนอบกรอบ ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีรสหวานนำ รสเค็มนำ และไม่เผ็ด (ชาวเวียดนามมักไม่นิยมอาหารรสจัด เผ็ดจัด) ซึ่งควรมีตัวอย่างให้ทดลองชิม เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีวัฒนธรรมเลือกซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าสมัยใหม่มากขึ้น และมักใช้เวลาเดินชม และลองชิมก่อนเลือกซื้อสินค้า
[su_spacer]
ในขณะที่สินค้าอุปโภคจำพวกน้ำมันนวดและยาหม่องสมุนไพรในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน โดยชาวเวียดนามที่มาซื้อสินค้าจะมีคำถามยอดฮิตว่า สามารถใช้กับเด็กได้หรือไม่ แสดงให้เห็นว่าเด็กเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคชาวเวียดนามโดยเฉพาะที่มาจับจ่ายสินค้ากับครอบครัว ขณะที่สินค้าหัตถกรรมที่ขายได้มากในงานคือกระเป๋า ผ้าแฟชั่น เครื่องหนังสีพื้น ๆ เรียบ ๆ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสูงหรือ งานที่มีความละเอียดมากอย่างกระเป๋าผ้าไหม รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีสีสันฉูดฉาด อาจจะไม่ตอบโจทย์ลูกค้าชาวเวียดนามเท่าไหร่นัก
[su_spacer]
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สามารถดึงดูดความสนใจลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าได้ คือ การสื่อสารที่ชัดเจนในภาษาเวียดนาม ทั้งในการพูดเชิญชวนและคำอธิบายบนบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสารระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย เพราะชาวเวียดนามที่ใช้ภาษาอังกฤษยังมีอยู่ไม่มาก ผู้ประกอบการไทยจึงควรเรียนรู้คำศัพท์ภาษาเวียดนามง่าย ๆ หรือจ้างล่ามแปลภาษาเวลาไปจัดแสดงสินค้าเพื่อให้การนำเสนอสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่น
[su_spacer]
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการ OTOP หลายรายที่มาร่วมโครงการฯ ต่างเห็นพ้องว่าตลาดอาเซียน โดยเฉพาะตลาด CLMV กำลังเป็นที่น่าจับตามอง เพราะจากประสบการณ์ขายสินค้าในประเทศเพื่อนบ้านมาได้ระยะหนึ่งพบว่าทุกตลาดนั้นมีกำลังซื้อสินค้าไทยสูงและชื่นชอบสินค้าไทย โดยเฉพาะในเวียดนาม แม้ว่าสินค้าที่จัดจำหน่ายภายในงานเทศกาลไทยฯ จะมีราคาสูงกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่วางจำหน่ายในเวียดนามมากกว่า 30 – 40% แต่ผู้ประกอบการหลายรายก็ยังสามารถขายหมดได้ในระยะเวลาอันสั้น หมายความว่าผู้บริโภคชาวเวียดนามมีรสนิยมการบริโภคสินค้าบางอย่างคล้ายคลึงกับผู้บริโภคชาวไทย และที่สำคัญคือมีความเชื่อมั่นในสินค้าไทยมาก
[su_spacer]
ผู้ประกอบการบางรายได้กล่าวถึงพฤติกรรมการบริโภคของคนเวียดนามเปลี่ยนไปจากในอดีต นิยมจับจ่าย ซื้อของในห้างสรรพสินค้ามากขึ้น และพาครอบครัวมาพักผ่อน ทานอาหารนอกบ้าน การจัดงานแสดงสินค้าในศูนย์การค้าจึงทำให้มีคนสนใจเข้าชมและเลือกซื้อสินค้าจำนวนมาก รวมถึงมีโอกาสในการแสดงสินค้าให้กับตัวแทนจำหน่าย (Distributor) ที่มาเยี่ยมชมสินค้าภายในงานอีกด้วย ซึ่งแตกต่างกับการไปแสดงสินค้าที่จีนที่ช่วงหลังมีการจัดงานแสดงสินค้าจำนวนมาก และมักจัดในศูนย์การประชุม ทำให้มีผู้เข้าชมบางตาและลดโอกาสในการนำเสนอสินค้า แก่สาธารณชน
[su_spacer]
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างความสำเร็จของงานเทศกาลไทยในเวียดนาม ซึ่งนอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและกำลังซื้อในผู้บริโภคชาวเวียดนามแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นก้าวสำคัญของการพัฒนาสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้า OTOP ที่มีศักยภาพ ยกระดับไปสู่ตลาดเวียดนามผ่านแพลตฟอร์มงานเทศกาลไทย จึงสามารถกล่าวได้ว่า เวียดนามเป็นตลาดที่สดใสสำหรับการทำธุรกิจการค้าปลีกไทยในปัจจุบัน ที่จะสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก และพัฒนาสินค้าไทยสู่สากล
[su_spacer]
โดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์
กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ