เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2562 รัฐบาลหนิงโปได้จัดงานวันตรุษจีนและการบรรยายสรุปพัฒนาการของเมืองหนิงโป โดยมีนายชิว ตงเหยา (Qiu Dongyao) รองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ และนายกเทศมนตรีเมืองหนิงโปเป็นประธาน และมีคณะกงสุลต่างประเทศเข้าร่วมด้วย ซึ่งสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ [su_spacer size=”20″]
ภาพรวมเมืองหนิงโป ถือเป็นเมืองในมณฑลเจ้อเจียง มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ Maritime Silk Road ของจีน เป็นเส้นทางการค้ามากกว่า 2,000 ปี และเป็นเมืองท่าที่สำคัญสมัยราชวงศ์ถัง ปัจจุบันมีประชากรประมาณ 8 ล้านคน มีพื้นที่ 9,365 ตร.กม. เป็นเมืองระดับ sub-provincial 1 ใน 15 เมืองของจีน และ 1 ใน 5 เมืองระดับเทศบาลของจีนที่มีอิสระในการกำหนดนโยบาย ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นได้รับสิทธิในการวางนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเป็นอิสระเทียบเท่ารัฐบาลระดับมณฑล โดยมีสัดส่วน GDP ของภาคเอกชนร้อยละ 80 ของทั้งหมด แตกต่างจากเมืองที่เป็นฐานอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในเขตเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภาครัฐวิสาหกิจ [su_spacer size=”20″]
เศรษฐกิจของเมืองหนิงโปขับเคลื่อนด้วย SMEs เป็นฐานการผลิตสิ่งทอ (1 ใน 4 ของตลาดจีน) เครื่องใช้ภายในบ้าน และอุตสาหกรรมยานยนต์ชั้นนำของจีน อาทิ Zhejiang Geely Holding และบริษัท Shanghai Volkswagen นอกจากนี้ เมื่อเดือน ส.ค. 2559 ได้รับมอบหมายให้เป็น Pilot Zone ของนโยบาย Made in China 2025 แห่งแรกของจีน ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าสินค้าทางนวัตกรรมจำนวน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2563 ตามคำกล่าวของนายกเทศมนตรีเมืองหนิงโป เมืองหนิงโปมีที่ตั้งใกล้กับทะเลจีนตะวันออก อยู่ทางทิศใต้ของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยง (YRD) ห่างจากเซี่ยงไฮ้ 2 ชั่วโมงด้วยรถไฟความเร็วสูง ได้รับการขนานนามจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่าเป็น “ท่าเรือโบราณเส้นทางสายไหม” โดยในปี 2561 หนิงโปมีขนาด GDP 1.07 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 มี GDP ต่อหัวมากกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ มีรายรับรัฐบาลทั้งหมด 2.65 แสนล้านหยวน โดยในจำนวนนี้เป็นรายรับจากภาษี 13.79 แสนล้านหยวน มีการนำเข้าและส่งออกสินค้าต่างประเทศ 8.57 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.9 มูลค่า FDI ที่เกิดขึ้นจริง 43 พันล้าน USDเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 และปริมาณขนส่งสินค้าที่ท่าเรือหนิงโปโจวซานมากที่สุดในโลกต่อเนื่อง 10 ปี ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่เหมาะต่อการประกอบธุรกิจอันดับ 8 และเป็นเมืองที่มีการผลิตด้านนวัตกรรมอันดับ 9 ของจีน [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ เมืองหนิงโปมีแผนที่จะส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรมใหม่ อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด เทคโนโลยีสารสนเทศ ส่งเสริมบทบาทท่าเรือหนิงโปให้สอดคล้องกับการยกระดับยุทธศาสตร์เขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีหรือ YRD เร่งรัดการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเซี่ยงไฮ้-เจียชิง-หนิงโป ส่งเสริมการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และมุ่งเชื่อมโยงการขยายเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้อเจียงกับหนิงโป และเน้นย้ำความสำคัญของการจัดงาน China-Central and Eastern European Countries on Promoting Trade and Economic Cooperation Expo ครั้งที่ 5 ที่หนิงโปในเดือน มิ.ย. 2562 [su_spacer size=”20″]
ภายในงานดังกล่าวผู้แทนสภาประชาชนหนิงโปได้กล่าวถึงความสำคัญของเขตพัฒนาทางเศรษฐกิจปากอ่าวหนิงโป-หางโจว (Ningbo-Hangzhou Bay New Area: NHBA) เพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยง YRD ตามที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศในการประชุม CIIE โดยเขต NHBA ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2553 ครอบคลุมพื้นที่ 353 ตร. กม. ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของหางโจว 131 กม. และห่างจากหนิงโปไปทางทิศตะวันตก 80 กม. เป็นเขตอุตสาหกรรมการผลิตใหม่ ครอบคลุมด้านยานยนต์ ภาคการบิน ปัญญาประดิษฐ์ และเศรษฐกิจดิจิทัล โดยในปี 2561 มีมูลค่า GDP ในพื้นที่ NHBA 5.8 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 มีรายได้รัฐบาล 1.6 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.5 มีการนำเข้าและส่งออก 1.73 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 นอกจากนี้ ตั้งเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตให้เทียบเท่ากับเยอรมนี มีการลงทุนของบริษัท SAIC Volkswagen และบริษัท Geely Auto มีกำลังการผลิตรถยนต์ 1.2 ล้านคัน รวมไปถึงเป็นที่ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา Geely Volvo ที่ใหญ่ที่สุดในโลก [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า รัฐบาลหนิงโปมีบทบาทด้านการต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือไปจากการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม China-Central and Eastern European Countries เพื่อผลักดันยุทธศาสตร์ BRI กับกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก ผ่านความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน รัฐบาลหนิงโปยังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม China Smart City Expo เมื่อเดือนกันยายน 2562 ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 มีการจัดงานแสดงสินค้าด้านนวัตกรรม Smart City/ Big Data/ AI และธุรกิจเกี่ยวกับ blockchain เป็นเวทีในการหารือ แลกเปลี่ยนความร่วมมือ และจับคู่ทางธุรกิจในด้าน Intelligent Economy ระหว่างจีนกับต่างประเทศ โดยภายในงานมีผู้เข้าร่วมประมาณ 1,000 คน จาก 100 ประเทศทั่วโลก [su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้