เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2562 รายงานของบริษัทวิจัยตลาด International Data Corporation (IDC) ได้เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2562 ปริมาณขายสมาร์ทโฟนของ Huawei อยู่ที่ 59.1 ล้านเครื่อง คิดเป็นร้อยละ 19 จากส่วนแบ่งทางการตลาดของโลก เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมียอดขายขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 แทนที่ Apple ที่ลงไปอยู่อันดับที่ 3 โดยมีสถานการณ์ของยอดขายย่ำแย่ที่สุด เพราะเติบโตติดลบสูงสุดถึงร้อยละ 30.2 มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ร้อยละ 11.7 ขณะที่ Samsung ยังคงอยู่ในตำแหน่งของผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ของโลก โดยมีปริมาณขายสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 71.9 ล้านเครื่อง และส่วนแบ่งทางการตลาดของโลกคิดเป็นร้อยละ 23.1 [su_spacer size=”20″]
IDC กล่าวว่า ตลาดสมาร์ทโฟนยังคงเผชิญกับความท้าทายในปัจจุบัน เนื่องจากยอดส่งออกโดยรวมลดลงร้อยละ 6.6 เมื่อเทียบเป็นรายปี และมียอดรวมอยู่ที่ 310.8 ล้านเครื่องในไตรมาสแรกของปีนี้ นับเป็นอัตราการเติบโตแบบติดลบที่ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 [su_spacer size=”20″]
รายงาน Quarterly Mobile Phone Tracker ของ IDC กล่าวว่า กระแสของโทรศัพท์มือถือ 5G อาจทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสมาร์ทโฟนจนกว่าทั้งเครือข่ายและอุปกรณ์จะพร้อมใช้งานระบบ 5G ในปีหน้า [su_spacer size=”20″]
ขณะที่สำนักข่าว Caixin วิเคราะห์เหตุผลที่ปริมาณการขายสมาร์ทโฟนของ Huawei แซงหน้า Apple ว่าสมาร์ทโฟนของ Huawei มีราคาที่ไม่สูง ซึ่งอาจจะเป็นจุดที่ทำให้ Huawei ขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนสองรายใหญ่ (Duopoly) ในอีก 10 ปีข้างหน้า [su_spacer size=”20″]
สำหรับยอดขายสมาร์ทโฟนในอันดับอื่น ๆ ประกอบด้วย อันดับ 4 Xiaomi อัตราการเติบโตโตติดลบร้อยละ 10.2 ส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 8 ส่วนอันดับ 5 ได้แก่ Vivo ร่วมกับ Oppo โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 7.4 และ 7.5 ตามลำดับ นอกจากนี้ ใน 5 อันดับแรกของยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลก มีเพียงสมาร์ทโฟนของ Huawei และ Vivo เท่านั้นที่มียอดการเติบโตที่ไม่ติดลบ [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง