เวียดนามจะเปิดท่าเรือน้ำลึก Lach Huyen ท่าเรือแห่งใหม่ที่นครไฮฟองในเดือน พ.ค. 2561 ซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมโยงทางทะเลที่สําคัญในภาคเหนือของเวียดนาม เพื่อส่งเสริมให้เวียดนามมีบทบาทในห่วงโซ่อุปทานโลกมากขึ้น และคาดว่าท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเวียดนามเคยกล่าวว่าท่าเรือแห่งนี้จะเป็นส่วนสําคัญในยุทธศาสตร์ทางทะเลของเวียดนามด้วย[su_spacer size=”20″]
ท่าเรือน้ำลึก Lach Huyen เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2556 โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล มีความลึกหน้าท่า 14 เมตร ซึ่งลึกกว่าท่าเรือเดิมเท่าตัว เนื่องจาก ท่าเรือเดิมที่ตั้งอยู่ที่แม่น้ำ Cam หน้ากว้างของท่าเรือ Lach Huyen มีความยาว 750 เมตร ซึ่งยาวกว่าท่าเรือเดิมเท่าตัวและจะมีความจุรวมมากกว่าท่าเรือเดิมมากกว่าเท่าตัว ในระยะแรกท่าเรือแห่งนี้จะเปิดใช้ในวันที่ 13 พ.ค. 2561 ด้วยมีความจุที่ 300,000 TEUs และเมื่อพัฒนาเต็มที่จะมีความจุ 2.3 ล้าน TEUs[su_spacer size=”20″]
ในอนาคต นครไฮฟองจะสามารถรับสินค้าความจุรวมประมาณ 5 ล้าน TEUs ใกล้เคียงกับความจุของท่าเรือนครโฮจิมินห์ทางใต้ของเวียดนามซึ่งมีความจุประมาณ 5.94 ล้าน TEUs และจะมีความจุใกล้เคียงกับ ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งมีความจุ 7.78 ล้าน TEUs อย่างไรก็ดี ความจุของท่าเรือเวียดนามยังน้อยกว่าท่าเรือสิงคโปร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีความจุ 33.66 ล้าน TEUs[su_spacer size=”20″]
ปัจจุบัน ภาคเหนือของเวียดนามเริ่มเป็นศูนย์การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ และเครื่องมือ/อุปกรณ์การผลิตต่าง ๆ ทั้งนี้ เขตอุตสาหกรรม Deep C ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับท่าเรือน้ำลึก Lach Huyen ได้ดึงดูดนักลงทุนมากกว่า 80 บริษัททั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ โดยหนึ่งในกลุ่มบริษัทจากญี่ปุ่นเห็นว่าเขตอุตสาหกรรม Deep C จะได้รับประโยชน์จากท่าเรือมาก โดยเฉพาะเรื่องความสะดวกในการนําเข้า/ส่งออกสินค้า[su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย