เมื่อเร็ว ๆ นี้ สถานกงสุลใหญ่ไทยในนครโฮจิมินห์ได้นําคณะผู้ประกอบการไทยด้านเทคโนโลยี และการแปรรูปการเกษตร จํานวน 16 บริษัท ประกอบด้วยผู้ประกอบการเครื่องจักรการเกษตรด้านการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว เครื่องตัดอ้อย เครื่องหว่านปุ๋ย ข้อต่อพ่วงเครื่องจักร เทคโนโลยีการปลูกผัก Hydroponics ผ้าใบคลุม สําหรับทําการเกษตรเฉพาะทาง ระบบฉีดและรดน้ำ การผลิตตราสินค้าติดผักผลไม้ ผู้รับผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป และระบบไฟสําหรับการทําการเกษตร เข้าร่วมงานแสดงสินค้าด้านการเกษตร (AGROVIET 2018) ครั้งที่ 18 ในหัวข้อ “การพัฒนาการเกษตรด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัย” จัดโดยกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนาม ที่นครดานัง ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2561 โดยไทยได้จัดแสดงเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์การเกษตร และผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตรในลักษณะ Thai Pavilion ทั้งนี้ ผู้จัดประเมินว่า มีผู้เข้าเยี่ยมชมงานครั้งนี้ประมาณ 8,000-10,000 คน และมีผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าประมาณ 100 ราย จาก 20 จังหวัดที่ทําด้านเกษตรกรรมของเวียดนาม เช่น จังหวัดเดิมด่ง (ดาลัด) และจังหวัดป่าเหรียะ-หวุงเต่า ตลอดจนอุทยานการเกษตรกรรมขั้นสูงของนครโฮจิมินห์ ซึ่งการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยีการเกษตรของไทย รวมทั้งการแปรรูปการเกษตรเป็นอย่างมาก[su_spacer size=”20″]
นาย Vu Van Minh รองประธานองค์กรการแปรรูปและพัฒนาการตลาดการเกษตรและนาย Nguyen Ha Bac รองผู้อํานวยการกรมอุตสาหกรรมและการค้า นครดานัง ได้ให้ข้อมูลว่า นครดานังถูกวางให้เป็นศูนย์กลางเขตเศรษฐกิจชายฝั่งทะเลและศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเวียดนามในภาคกลาง ทําให้มีความต้องการสินค้าทางการเกษตรจํานวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกษตรปลอดภัย เพื่อรองรับผู้บริโภค รวมทั้งนักท่องเที่ยวซึ่งมีจํานวนประมาณ 6 ล้านคนต่อปี และยังตั้งเป้าให้เป็น 10 ล้านคนต่อปีอีกด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์การเกษตรเหล่านี้ นครดานังต้องนําเข้าทั้งหมด ทั้งจากภาคเหนือและจังหวัดแถบลุ่มแม่น้ำโขงของเวียดนาม และจากต่างประเทศรวมทั้งไทย ปัจจุบันมีตัวเลขว่า นครดานังนําเข้าผักผลไม้ประมาณ 350 ตันต่อวัน และในช่วงเทศกาลต่าง ๆ สูงถึง 450 – 500 ตันต่อวัน นอกจากนี้ โดยที่นครดานังมีพื้นที่สําหรับการทําการเกษตรที่ค่อนข้างจํากัด จึงต้องการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มผลิตผลการผลิต ล่าสุด เมื่อปี 2560 นครดานังได้อนุมัติแผนพัฒนาการเกษตรโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจํานวน 7 โครงการ บริเวณตําบลหว่านินห์ ตําบลหว่าฬู้ และอําเภอหว่าวาง เน้นการปลูกผักปลอดสารพิษ การเลี้ยงสัตว์บกและสัตว์ปีก การเพาะเห็ดเพื่อบริโภคและใช้เป็นวัตถุดิบสําหรับการผลิตยาชนิดต่าง ๆ ตลอดจนการปลูกพืชสมุนไพร ซึ่งนครดานังสนใจจะส่งเสริมความร่วมมือด้านนี้กับไทยเนื่องจากไทยมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ยาวนาน[su_spacer size=”20″]
จากการเยี่ยมชมพื้นที่เกษตรกรรมอําเภอหว่าวาง พบว่ายังเป็นการเพาะปลูกแบบดั้งเดิม มีระบบชลประทานแบบน้ำซึมใต้ดิน และใช้กําลังคนเป็นหลัก จึงนับว่าเป็นโอกาสดีสําหรับผู้ประกอบการไทย ด้านเทคโนโลยีการเกษตรและการแปรรูปเลยทีเดียว ทั้งนี้ นครดานังมีมาตรการจูงใจสําหรับนักลงทุน เช่น การยกเว้นค่าเช่าที่ดินเพื่อทําการเกษตรและการให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการไทยบางรายแสดงความสนใจที่จะนําพันธุ์ผักผลไม้และปุ๋ยปลอดสารพิษที่เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรมาทดลองใช้ในพื้นที่ และการปลูกผักโดยใช้เทคโนโลยี Hydroponics ในพื้นที่จํากัดตลอดจนการพัฒนาฟาร์มเพาะเลี้ยงปลากะพงและแปรรูปเพื่อรองรับผู้บริโภคในนครดานังและจังหวัดท่องเที่ยวใกล้เคียง[su_spacer size=”20″]
อย่างไรก็ดีโอกาสด้านเทคโนโลยีการเกษตรและการแปรรูปการเกษตรในเวียดนามมิได้จำกัดเพียงนครดานังเท่านั้นเนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามให้ความสําคัญกับการส่งเสริมนโยบายด้านการเกษตรกรรมโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและการพัฒนาด้านการเกษตรอินทรีย์โดยมีเป้าหมายจัดตั้งธุรกิจด้านเกษตรกรรมขั้นสูงจํานวน 200 รายและเขตเกษตรกรรมขั้นสูง 20 แห่งภายในปี 2563 และส่งเสริมให้ภาคเกษตรกรรมเติบโตร้อยละ 3 ต่อปีตลอดจนเพิ่มสัดส่วนการใช้เทคโนโลยีในการเกษตรให้สูงขึ้นเป็นร้อยละ 10 – 15 ซึ่งปัจจุบันการส่งออกสินค้าเกษตรประมงและป่าไม้ของเวียดนามร้อยละ 90 ไม่มีการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงจึงเป็นโอกาสหนึ่งสําหรับผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพและสนใจที่จะเข้าไปพัฒนาการทําการเกษตรในด้านต่างๆ[su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์