ภาครัฐและภาคเอกชนไทยและกัมพูชา ร่วมกันเปิดขบวนรถไฟขนส่งสินค้าจากไทยไปกัมพูชารอบปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566
(เส้นทางมาบตาพุด – คลองลึก – ปอยเปต – กรุงพนมเปญ) ณ สถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ. สระแก้ว
การเปิดขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ครั้งนี้ ถือเป็นพัฒนาการที่สําคัญในการเชื่อมโยงทางรางระหว่างทั้ง 2 ประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายระบบรางของภูมิภาคอาเซียน และเป็นขบวนแรกที่ได้ผ่านสะพานจุดผ่านแดน ณ จุดสะพานเหล็กโอโจรว ซึ่งเป็นสะพานแบ่งเขตแดนทางรถไฟระหว่าง 2 ประเทศ นับตั้งแต่ทางรถไฟของไทยและกัมพูชาได้เชื่อมต่อกันตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2561 สินค้าที่ขนส่งด้วยรถไฟครั้งนี้ ได้แก่ เม็ดพลาสติกและน้ํามันของบริษัท ปตท. OR
การพัฒนาความเชื่อมโยงทางรางรถไฟไทย – กัมพูชาก่อให้เกิดผลดีต่าง ๆ ได้แก่ (1) ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ (2) ลดระยะเวลาการขนส่งระหว่างประเทศ (3) เพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยในการเลือกขนส่งที่มีคุณภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของไทยในอนาคต (4) ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งทางบกและส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (5) กระตุ้นการค้าระหว่างประเทศไทย – กัมพูชา ให้มากขึ้น และ (6) ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติในการผลักดันการขนส่งทางรางให้สามารถเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าทางระบบรางของไทยให้เข้ากับการขนส่งสินค้าทางรางของภูมิภาคอาเซียน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายทางการค้าระหว่างไทยและกัมพูชา ในการ เพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี พ.ศ. 2568
อย่างไรก็ตาม การขนส่งทางรางรอบแรกนี้ พบปัญหาในเชิงการอำนวยความสะดวกที่ด่านรถไฟบ้านคลองลึก เนื่องจากด่านรถไฟดังกล่าวยังไม่ใช่ด่านรถไฟระหว่างประเทศถาวร จึงยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการรองรับการขนส่งทางราง รวมถึงกฎระเบียบและพิธีการศุลากรที่ซับซ้อน ทำให้ใช้เวลาในการตรวจสอบสินค้าค่อนข้างนาน
ปัจจุบัน กัมพูชามุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งและการเชื่อมโยงระหว่างประเทศหลายโครงการในเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจ ภาครัฐและเอกชนไทยอาจใช้โอกาสนี้ในการสร้างความร่วมมือกับกัมพูชา เพื่อยกระดับและพัฒนาความเชื่อมโยงทางการค้าไม่เพียงแต่ในอาเซียน แต่ยังนำไปสู่โอกาสทางการค้าในจีนด้วย
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ
เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์