สเปนเป็นประเทศชั้นนำของโลกด้านระบบคมนาคมขนส่งทางราง ทั้งด้านการให้คำปรึกษา วิศวกรรมการก่อสร้างและอุปกรณ์ต่าง ๆ อีกทั้งมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม ความปลอดภัย และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ บริษัทของสเปนจึงได้รับสัมปทานให้เข้าไปดำเนินโครงการรถไฟใน 90 กว่าประเทศทั่วโลก ทั้งรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟธรรมดา รถไฟใต้ดิน และรถราง อาทิ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง Haramain ที่เชื่อมต่อระหว่างนครเมกกะกับเมืองเมดินาของซาอุดีอาระเบีย และเส้นทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อมระหว่างกรุงอังการากับนครอิสตันบูลในตุรกี
[su_spacer]
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปนได้ยกตัวอย่างบริษัทสเปนบริษัทหนึ่งที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตรถไฟฟ้าความเร็วสูง และเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่ทันสมัยที่สุดในยุโรปอีกด้วย นั่นคือ บริษัท Talgo
[su_spacer]
Talgo S.A. (https://www.talgo.com/) ย่อมาจาก Tren Articulado Ligero Goicoechea Oriol (Goicoechea-Oriol light articulated train) ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1942 เป็นบริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมด้านการรถไฟ ทั้งนี้ เมื่อปี ค.ศ. 1968 ได้เป็นบริษัทที่ผลิตรถไฟที่มีระบบปรับขนาดรางอัตโนมัติขบวนแรกของโลก และเมื่อปี ค.ศ. 2010 บริษัทก็ได้พัฒนารถไฟที่สามารถใช้งานในระบบที่แตกต่างกันได้ 100% เป็นขบวนแรกของโลกด้วย บริษัท Talgo มีบทบาทสำคัญในวงการรถไฟสเปนมาเป็นเวลานาน ขบวนรถไฟฟ้าความเร็วสูงมากกว่าร้อยละ 50 ที่ Renfe (หน่วยงานภาครัฐสเปนให้บริการการขนส่งทางรางแก่ผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า) เลือกใช้ผลิตโดยบริษัท Talgo ปัจจุบัน นอกจากสำนักงานใหญ่ที่กรุงมาดริด บริษัทยังขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยมีสำนักงานศูนย์การผลิตและซ่อมบำรุงในหลายประเทศ อาทิ เยอรมนี สหรัฐฯ รัสเซีย คาซัคสถาน และซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น
[su_spacer]
ปัจจุบัน Talgo ดำเนินธุรกิจโดยผลิตขบวนรถไฟฟ้าซึ่งมีความเร็วทั้งสูงมาก (ความเร็วสูงสุด 330 กม./ชม.) และความเร็วสูง (250 กม./ชม.) รถไฟ Intercity และ Regional and Suburban รวมทั้งผลิตหัวรถจักรด้วย นอกจากนี้ ยังออกแบบและผลิตอุปกรณ์ซ่อมบำรุงให้แก่ผู้ดำเนินกิจการรถไฟในหลายประเทศ ทั้งเครื่องกลึงล้อรถไฟแบบติดใต้พื้น (Underfloor wheel Lathe) เครื่องมือตรวจสภาพล้อรถไฟ (Measuring equipment) และรถสับเปลี่ยนชุดรถไฟ (Shunting Cars) โดยอุปกรณ์ซ่อมบำรุงที่ออกแบบและผลิตโดย Talgo กว่า 400 ชุดได้ถูกนำไปใช้งานใน 44 ประเทศ รวมทั้งมีการให้บริการซ่อมบำรุงแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟใต้ดิน หรือรถราง โดยสามารถซ่อมบำรุงรถไฟที่ออกแบบโดย Talgo และที่ออกแบบโดยบริษัทอื่นได้ด้วย
[su_spacer]
ตัวอย่างของ Talgo กับโครงการในต่างประเทศที่บริษัทเข้าไปดำเนินการ อาทิ
[su_spacer]
– ซาอุดีอาระเบีย Talgo เป็นผู้ผลิตรถไฟรุ่น Talgo 350 ที่สมบุกสมบันรับกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดและลมทะเลทรายให้กับเส้นทางสายแสวงบุญ Haramain High Speed Rail (HHR) นครเมกกะ – เมืองเมดินาและได้มีสัญญาซ่อมบำรุงรถไฟเป็นเวลา 12 ปี อนึ่ง เทคโนโลยีการขนส่งทางรางและตัวขบวนรถไฟของเส้นทางนี้เป็นเทคโนโลยีมาจากสเปนซึ่งประมูลโครงการนี้ได้เมื่อปี ค.ศ. 2011
[su_spacer]
– เยอรมนี Deutsche Bahn (บริษัทการรถไฟเยอรมนี) จ้างบริษัท Talgo ผลิตรถไฟ 100 ขบวน รุ่น Talgo 230 ที่ใช้ชื่อว่า “ECx” ที่จะใช้สำหรับเส้นทางกรุงเบอร์ลิน (เยอรมนี) – นครอัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์) โดย Talgo มีกำหนดส่งรถไฟล็อตแรกจำนวน 23 ขบวน ในปี ค.ศ. 2023
[su_spacer]
– รัสเซีย Strizh การรถไฟรัสเซีย ได้ว่าจ้างบริษัท Talgo ผลิตรถไฟความเร็วสูงเพื่อใช้บริการผู้โดยสารเส้นทางกรุงมอสโก (รัสเซีย)
[su_spacer]
– กรุงเบอร์ลิน (เยอรมนี) และเส้นทางกรุงมอสโก-เมือง Nizhni Nóvgorod ในรัสเซีย หนึ่งจุดเด่นสำคัญของ Strizh คือไม่ต้องหยุดจอดพักเพื่อเปลี่ยนขนาดทางที่ชายแดน
[su_spacer]
สำหรับในเอเชีย Talgo ยังได้แสดงศักยภาพในอินเดียโดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 รถไฟของบริษัท Talgo ได้สร้างสถิติเป็นรถไฟที่เร็วที่สุดของประเทศ หลังจากผ่านการทดสอบความเร็ว 180 กม./ชม. ในเส้นทางเมือง Mathura – เมือง Palwal ใช้เวลา 38 นาทีบนระยะทาง 84 กม.
[su_spacer]
Talgo มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในธุรกิจของตนอย่างไม่หยุดยั้ง โดยนวัตกรรมล่าสุดของ Talgo ซึ่ง Renfe กำลังจะนำมาใช้ในระบบรถไฟฟ้าของสเปน คือ รถไฟความเร็วสูงรุ่นใหม่ของบริษัท Talgo รุ่น Talgo Avril ซึ่งกล่าวกันว่า เป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูงมากที่ทันสมัยที่สุดในยุโรป
[su_spacer]
ความพิเศษของรถไฟรุ่น Talgo Avril คือ เป็นรถไฟฟ้าความเร็วสูงมากที่น้ำหนักเบาที่สุดในโลก เพราะนำเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมการบินมาประยุกต์ใช้ โดยมีน้ำหนักของตู้โดยสารซึ่งเบากว่าตู้ทั่วไปประมาณ 40% แต่ยังคงความปลอดภัยต่อการเดินทางไว้สูงสุดสำหรับผู้โดยสาร โดยน้ำหนักของตัวรถที่เบาจะส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระบบรางในระยะยาว เนื่องจากตัวรางไม่ต้องรองรับน้ำหนักของขบวนรถไฟที่มากจนเกินไป ซึ่งจะมีผลให้ระบบรางเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่เช่นนั้นก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาจำนวนมาก นอกจากนี้ ตู้รถไฟของ Talgo ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเน้นความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารด้วยห้องโดยสารที่กว้าง สามารถต่อแถวที่นั่งได้แบบ 3+2 ทำให้บรรจุผู้โดยสารได้มากกว่าตู้รถไฟทั่วไป และสามารถใช้กับรางรถไฟได้ทั่วสเปนไม่จำกัดว่าจะเป็นขนาดทางแบบมาตรฐาน 1.435 ม. ที่สเปนใช้สำหรับรถไฟฟ้าความเร็วสูงหรือขนาดทางแบบไอบีเรีย 1.668 ม. ที่สเปนใช้สำหรับรถไฟทั่วไปก็ตาม
[su_spacer]
ในสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 บริษัทยังได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร โดยขณะนี้กำลังศึกษาวิจัยและทดสอบระบบการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเพื่อติดตั้งในขบวนรถไฟฟ้าความเร็ว ซึ่งรวมถึงการใช้โคมไฟฆ่าเชื้อรังสีอัลตราไวโอเลตภายในระบบระบายอากาศ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน “El tren en tu móvil” (รถไฟในโทรศัพท์มือถือ) อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารทุกคนโดยเฉพาะผู้พิการทางสายตา แอปพลิเคชันดังกล่าวจะแจ้งข้อมูลเสียงพาผู้โดยสารไปที่นั่งของตน แจ้งสถานะห้องสุขา หรือแจ้งว่าร้านกาแฟบนรถไฟเปิดให้บริการหรือไม่ เป็นต้น
[su_spacer]
กล่าวได้ว่า Talgo เป็นบริษัทที่ให้บริการครอบคลุมครบทุกด้าน และด้วยประสบการณ์และนวัตกรรมของบริษัท Talgo จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจต่อการรถไฟในหลายประเทศ สักวัน คนไทยอาจได้ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยจากบริษัทสเปนชั้นนำแห่งนี้ในระบบรางของเราบ้างก็ได้ เพราะบริษัท Talgo ก็เห็นโอกาสและสนใจบุกตลาดระบบรางของไทยไม่ใช่น้อยเช่นกัน
[su_spacer]
ทั้งนี้ ผู้สนใจรับทราบเทคโนโลยีต่าง ๆ ของ Talgo สามารถชมวีดีโอได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=O9GvqX5m_Pc
[su_spacer]
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน http://www.thaiembassy.org/bic.madrid/
[su_spacer]
