เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2567 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองการาจี ได้พบหารือกับนาย Arif Suleman ประธานสมาคม Pak-Thai Friendship Association and Business Forum และบริษัท Best Buy Corporate ผู้แทนภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวรายใหญ่ของปากีสถาน เมืองการาจี โดยมีประเด็นธุรกิจในเมืองการาจีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไทย ดังนี้
ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ปัจจุบัน บริษัท Best Buy อยู่ในระหว่างการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในหลายรูปแบบ นับตั้งแต่การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (sports tourism) ไปจนถึงการท่องเที่ยวในรูปแบบต่าง ๆ ที่หลากหลาย โดยมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทการบินไทย ล่าสุดบริษัทฯ ได้นํานักธุรกิจชาวปากีสถานที่สนใจในกีฬากอล์ฟเดินทางไปยังประเทศไทยจํานวนมาก
ไทยเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยวเป็นทุนเดิมจึงมีศักยภาพอย่างมากที่จะเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ จำนวนมาก และมีความได้เปรียบมากกว่าประเทศผู้เล่นหลักในภูมิภาคอย่างสิงคโปร์ เช่น ราคาค่ารักษาพยาบาลที่สามารถแข่งขันได้ แหล่งจับจ่ายใช้สอยที่สะดวกสบายและมีให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมถึงค่าครองชีพที่ถูกกว่าสิงคโปร์ ปัจจัยดังกล่าวสามารถช่วยให้ไทยเป็นตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในปากรสถานได้ไม่ยากนัก
อาหารไทยและผลิตภัณฑ์อาหารไทย
ปัจจุบันร้านอาหารไทยในปากีสถานยังมีจํานวนน้อย ทว่าชาวปากีสถานรับรู้เกี่ยวกับชื่อเสียงของอาหารไทยผ่านการท่องเที่ยในประเทศไทย โดยภาพลักษณ์ของสินค้าไทยเป็นที่รู้จักอย่างดีในตลาดปากีสถาน ทั้งนี้ แหล่งพักผ่อนที่สําคัญของชาวปากีสถานมีเพียงศูนย์การค้าและร้านอาหาร การเปิดร้านอาหารไทยในปากีสถานจึงเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากปัจจุบันคนรุ่นใหม่ต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ในด้านอาหารและการบริการ สมาชิกหลายคนของสมาคมฯ ได้นําเข้าเครื่องปรุงรสและเครื่องแกงไทยมาจําหน่ายในปากีสถาน
ธุรกิจร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดปากีสถานในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แม้ปากีสถานเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การควบคุมพื้นที่อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนั้น การออกไปทานอาหารในร้านยังเป็นอีกรูปแบบของการพักผ่อนของชาวปากีสถาน ดังนั้น ร้านอาหารจึงถูกพิจารณาว่าเป็นแหล่งของการพบปะสังสรรค์ทางสังคม (social gathering) และจุดหมายของการเดินทาง เพื่อความเพลิดเพลิน (teisure trip)
ร้านอาหารไทยที่พบในเมืองการาจีส่วนใหญ่ไม่สามารถรักษารสชาติของความเป็นไทยได้อย่างแท้จริง เนื่องจากเซฟ/พ่อครัวส่วนมากเป็นชาวปากีสถานพื้นเมืองและข้อจํากัดด้านวัตถุดิบ ดังนั้น การส่งเสริมร้านอาหารไทยในปากีสถานจึงยังมีความสําคัญและมีสิ่งที่ต้องดําเนินการอีกมาก นอกจากนี้ ชาว ปากีสถานทั่วไปยังแยกไม่ออกระหว่างรสชาติของอาหารไทยกับอาหารจีน แต่ผู้ที่เคยเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไทยต้องการอาหารที่มีรสชาติไทยแท้ แม้ว่าคนกลุ่มนี้อาจมีไม่มากนักแต่คาดว่าจํานวนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองการาจี
เรียบเรียงโดย ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์
