เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 นายอานงสอน พมมะจัน หัวหน้ากรมที่ดิน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สปป. ลาว และนายพูขง จันทะจัก ผู้อำนวยการใหญ่ธนาคารการค้าต่างประเทศลาว มหาชน (Banque Pour Le Commerce Exterieur Lao Public: BCEL) ได้ลงนาม MOU ว่าด้วยความร่วมมือในการเชื่อมต่อและพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่ดินให้ทันสมัย โดยมีนายสมมาด พนเสนา รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรฯ นายสอนไซ สิดพะไซ ผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป. ลาว และผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วยงานเข้าร่วม
.
การลงนาม MOU ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการที่ดินให้ทันสมัยเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารที่ดินและระบบการชำระภาษีที่ดินแบบดิจิทัลระหว่างกระทรวงทรัพยากรฯ กับ BCEL รวมทั้งพัฒนาระบบชำระค่าธรรมเนียมและค่าบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับที่ดิน เช่น ภาษีที่ดินและการซื้อขายที่ดิน ในอนาคต รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาระบบการชำระภาษีที่ดินผ่านระบบธนาคารให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น โดยระบบการชำระภาษีที่ดินเป็นความร่วมมือระหว่างกรมส่วยสาอากร กระทรวงการเงิน สปป. ลาว กับ BCEL ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับการบริหารจัดการรายได้ของรัฐให้ทันสมัย โดยได้เปิดให้บริการชำระภาษีที่ดินผ่านระบบธนาคารตั้งแต่เดือน พ.ย. 2561 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีธนาคารที่เป็นตัวแทนรับชำระภาษีที่ดินร่วมกับ BCEL จำนวน 9 ธนาคาร
.
การรับชำระภาษีที่ดินผ่าน BCEL และธนาคารทั้ง 9 แห่งนี้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของการมีข้อมูลที่ดินที่น่าเชื่อถือและถูกต้อง ดังนั้น กรมที่ดินและ BCEL จึงได้ร่วมมือในการเชื่อมต่อข้อมูลที่ดินจากระบบที่ดินแห่งชาติ และระบบรับชำระเงินของธนาคาร ซึ่งจะทำให้ข้อมูลที่ดินจากฐานข้อมูลที่มีความชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อการจัดเก็บภาษี การใช้ประโยชน์จากที่ดิน การเก็บค่าธรรมเนียมและค่าบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่ดิน
.
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2559 – 2563) กรมที่ดินสามารถขึ้นทะเบียนที่ดินได้ 552 แปลง คิดเป็นร้อยละ 120 ของแผน กำหนดเขตตัวเมืองและประเมินมูลค่าที่ดินแล้วเสร็จ 111 เมือง และคาดว่าในปี 2563 จะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จ 148 เมือง นอกจากนี้ กรมที่ดินคาดว่าจะจัดทำแผนจัดสรรที่ดินและบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศแล้วเสร็จเร็ว ๆ นี้ เพื่อใช้อ้างอิงในการคำนวณค่าธรรมเนียมประเมินราคาและจัดสรรที่ดิน
.
ที่มา: https://laoedaily.com.la/2020/11/13/86213
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์