Saturday, June 14, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

ฝรั่งเศสเตรียมห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่ทำลายป่าภายในปี 2573

22/03/2019
in ทันโลก, ยุโรป
0
9
SHARES
444
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line
                 จากปัญหาการลดลงอย่างรวดเร็วของพื้นที่ป่าไม้ส่งผลให้ปริมาณก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังทำลายความหลากหลายทางชีวภาพและที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์ป่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) จึงร่วมกันรับผิดชอบปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกทำลายไปมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความต้องการสินค้าเกษตรของสหภาพยุโรป [su_spacer size=”20″]
                 ประเทศฝรั่งเศสจึงได้ออกมาตรการต่อสู้ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่าทั่วโลก โดยล่าสุดได้ประกาศ “ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่าจากการนำเข้า (The National Strategy Against Import Deforestation)” โดยกำหนดเป้าหมายจะยับยั้งการตัดไม้ทำลายป่าที่เกิดจากการนำเข้าสินค้าเกษตรหรือผลผลิตป่าไม้ที่ไม่ยั่งยืนให้ได้ภายในปี 2573 [su_spacer size=”20″]
                 ยุทธศาสตร์ชาตินี้จะกระตุ้นให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต ผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการผลิตและการบริโภคเพื่อลดการทำลายป่า โดยในช่วงแรกจะให้ความสำคัญกับสินค้าเกษตรที่ส่งผลกระทบต่อการทำลายป่าอย่างรุนแรง ได้แก่ ถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม เนื้อวัว ผลพลอยได้จากเนื้อวัว โกโก้ ยางธรรมชาติ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ ส่วนในอนาคตยุทธศาสตร์อาจขยายขอบเขตครอบคลุมไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ฝ้าย กาแฟ อ้อย ข้าวโพด กุ้ง ผลิตภัณฑ์จากการทำเหมืองแร่ เป็นต้น [su_spacer size=”20″]
                 นอกจากนี้ ยังได้กำหนดเป้าหมายการยกเลิกการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงที่ดินสูง สนับสนุนการให้ข้อมูลและชี้นำผู้บริโภคให้หันมาซื้อสินค้าที่ยั่งยืนผ่านระบบรับรองมาตรฐานสินค้าหรือการติดฉลาก สนับสนุนโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและฟื้นฟูระบบนิเวศในประเทศกำลังพัฒนา แสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศและผลักดันให้แนวทางปฏิบัติในการต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่าเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
มาตรการสำคัญในการต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่า
                 ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ ของฝรั่งเศสได้นำเสนอมาตรการที่จะมีส่วนช่วยยับยั้งการนำเข้าสินค้าเกษตรและผลผลิตป่าไม้ที่ไม่ยั่งยืน ดังนี้
                 (1) ทำความเข้าใจกับปัญหาและผลกระทบจากการตัดไม้ทำลายป่า เผยแพร่ข้อมูลให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบและแนวทางรับมือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น สนับสนุนการลงทุนในโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า
                 (2) สนับสนุนเงินช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในการต่อต้านการทำลายป่า โดยตั้งแต่ปลายปี 2561 ฝรั่งเศสจะให้เงินช่วยเหลือปีละ 60 ล้านยูโรเป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน การต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่า ฟื้นฟูระบบนิเวศป่าไม้และการปลูกป่า ซึ่งจะช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนาที่ส่งออกสินค้าเกษตรไปยังฝรั่งเศสสามารถพัฒนาการผลิตให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ไม่ทำลายป่า
                 (3) ตั้งเป้าลดการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพรุ่นแรกในภาคขนส่งให้เหลือไม่เกิน 7% ภายในปี 2563 และลดการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินอย่างสูงให้เหลือ 0% ภายในปี 2573 โดยหันมาสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพขั้นสูง (advanced biofuels) และก๊าซชีวภาพเพิ่มขึ้น
                 (4) ลดการพึ่งพาการนำเข้าถั่วเหลือง สนับสนุนการผลิตพืชโปรตีนในประเทศและการใช้พืชสำหรับอาหารสัตว์ที่หลากหลายมากขึ้น โดยให้ทำควบคู่ไปกับการพัฒนาพันธุ์พืชและเทคนิคการเพาะปลูกและปรับปรุงการใช้อาหารสัตว์โดยให้ใช้ปัจจัยการผลิตน้อยลง
                 (5) ภายในปี 2565 การจัดซื้อสินค้าสาธารณะของประเทศสมาชิกฯ จะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า (zero deforestation) โดยจัดทำคู่มือให้ความรู้แก่ผู้จัดซื้อสินค้าสาธารณะถึงความเสี่ยงจากการตัดไม้ทำลายป่าที่เกิดจากการนำเข้า (เช่น อาหาร สินค้าเกษตร) รวมทั้งแนวทางหลีกเลี่ยงและจำกัดความเสี่ยง
                 (6) จัดตั้งเวทีระดับประเทศ (national platform) เพื่อหารือถึงการต่อสู้กับปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า สนับสนุนการดำเนินงานและติดตามการปฏิบัติตามข้อผูกพันไม่ทำลายป่าของภาคเอกชน รวมทั้งทำหน้าที่เป็นศูนย์รวบรวมเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบจากการทำลายป่า และแบ่งปันประสบการณ์หรือแนวทางปฏิบัติที่ดีระหว่างกัน
                 (7) พัฒนาและเสริมสร้างระบบควบคุม การตรวจสอบย้อนกลับ การวิเคราะห์ความเสี่ยง และการเตือนภัย ซึ่งจะช่วยป้องกันการนำเข้าสินค้าที่มาจากกระบวนการผลิตอย่างไม่ยั่งยืน
                 (8) กำหนดนโยบายกระตุ้นความต้องการซื้อสินค้าที่ยั่งยืน โดยฝรั่งเศสวางแผนนำ “ฉลากไม่ทำลายป่า (zero deforestation label)” มาใช้ภายในปี 2563 ซึ่งจะช่วยผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า
                 (9) การใช้ระบบรับรองมาตรฐาน (certification) จะช่วยป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า โดยมุ่งขยายการรับรองให้เป็นที่ยอมรับและครอบคลุมสินค้าเพิ่มขึ้น
                 (10) สนับสนุนการติดฉลากสิ่งแวดล้อมแบบสมัครใจ โดยคำนึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินทางอ้อม และความหลากหลายทางชีวภาพตลอดทั้งวัฏจักรชีวิตสินค้า
                 (11) ผนวกเป้าหมาย “zero deforestation” ในแผนการเกษตรภายในปี 2562 โดยเริ่มจากสินค้าเกษตรหลักที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อป่า ได้แก่ สินค้าปศุสัตว์ (เนื้อวัว เนื้อลูกวัว นม สัตว์ปีก) น้ำมันพืช และพืชโปรตีน สำหรับสินค้าอื่นที่ไม่รวมอยู่ในแผนการเกษตร เช่น โกโก้ ยางพารา และไม้จะต้องกำหนดแผนงานเฉพาะเพื่อต่อสู้กับปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าที่เกิดจากการนำเข้า [su_spacer size=”20″]
การต่อสู้กับการตัดไม้ทำลายป่าไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากขาดความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ ดังนั้น ฝรั่งเศสจึงมุ่งผลักดันความสำคัญของการต่อสู้กับปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับภูมิภาค EU และนานาชาติ โดยจะผนวกแนวทางต่อสู้กับการทำลายป่าเข้าเป็นส่วนหนึ่งในร่างกฎระเบียบว่าด้วยการนำเข้าวัตถุดิบที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อป่า รวมทั้งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการผลิตและการค้าสินค้าอย่างยั่งยืน โดยจะบรรจุอยู่ในข้อตกลงการค้าทวิภาคีต่าง ๆ (bilateral trade agreement) [su_spacer size=”20″]
สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ/สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์
Previous Post

รู้จัก Kandol โครงการเพาะปลูกข้าวบรูไน โอกาสใหม่ของคนไทยในการเข้าไปเช่าพื้นที่เพาะปลูก

Next Post

เปิดสถิติการท่องเที่ยวกัมพูชาตลอดปี 2561 และจุดหมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไป

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post

เปิดสถิติการท่องเที่ยวกัมพูชาตลอดปี 2561 และจุดหมายที่นักท่องเที่ยวนิยมไป

Post Views: 999

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

Active packaging: โซลูชันลดสารปรอทในปลาทูน่ากระป๋อง

Active packaging: โซลูชันลดสารปรอทในปลาทูน่ากระป๋อง

12/06/2025
เกาหลีใต้เปิดตัวแผนสร้างเรือบรรทุกไฮโดรเจนเหลวใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2570

เกาหลีใต้เปิดตัวแผนสร้างเรือบรรทุกไฮโดรเจนเหลวใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2570

12/06/2025
กัมพูชาจัดพิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินเอมิเรตส์ที่เมืองเสียมราฐ

กัมพูชาจัดพิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินเอมิเรตส์ที่เมืองเสียมราฐ

12/06/2025
เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์กับความทนทานต่อค่าเงินแข็ง

เศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์กับความทนทานต่อค่าเงินแข็ง

11/06/2025
Update! สถานการณ์เศรษฐกิจเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

Update! สถานการณ์เศรษฐกิจเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

09/06/2025
สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X