สมัชชาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลกหรือ (World Travel & Tourism Council –WTTC) เผยข้อมูล “ภาพรวมและข้อมูลจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประจำปี 2561” ที่มาจากการวิเคราะห์เศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของมูลค่า GDP ใน 72 เมืองทั่วโลก รวมทั้ง มหานครฉงชิ่ง ที่ได้รับตำแหน่งเมืองที่มีการเติบโตด้านการท่องเที่ยวสูงที่สุดในโลกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ระหว่างปี 2550-2560) ขณะที่นครเฉิงตูอยู่ในอันดับที่สอง [su_spacer size=”20″]
ตารางการจัดอันดับเมืองที่มีการท่องเที่ยวเติบโตเร็วที่สุด 10 อันดับแรกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
1) ฉงชิ่ง | 6) เตหะราน |
2) เฉิงตู | 7) อาบูดาบี |
3) เซี่ยงไฮ้ | 8) อิสตันบูล |
4) ลากอส | 9) โฮจิมินห์ |
5) กว่างโจว | 10) มุมไบ |
[su_spacer size=”20″]
ตารางการจัดอันดับเมืองที่มีขนาดมูลค่าการท่องเที่ยวสูงสุดในโลก 10 อันดับ
1) เซี่ยงไฮ้ | 6) โตเกียว |
2) ปักกิ่ง | 7) กรุงเทพฯ |
3) ปารีส | 8) เม็กซิโก |
4) ออร์แลนโด | 9) ลาสเวกัส |
5) นิวยอร์ก | 10) เซินเจิ้น |
[su_spacer size=”20″]
ผู้แทนจากคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมมหานครฉงชิ่ง ให้ข้อมูลว่า หลายปีมานี้ ภาครัฐบาลพยายามผลักดันและส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวของฉงชิ่งอย่างจริงจัง มีการบูรณะแหล่งท่องเที่ยวที่ทรุดโทรม สร้างสาธารณูปโภคเพื่ออำนวยความสะดวกในบริเวณแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาระบบการคมนาคมทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปถึงแหล่งท่องเที่ยวได้สะดวกจากหลากหลายเส้นทาง ยกระดับประสิทธิภาพการบริการ และบูรณาการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวให้เกิดความสมบูรณ์ของระบบลูกโซ่อุตสาหกรรม ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่านสื่อมีเดียออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่จะยกระดับ ฉงชิ่งให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก [su_spacer size=”20″]
ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2561 ฉงชิ่งต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศจำนวน 410 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.82 มีรายได้จากการท่องเที่ยว 300,457 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.56 ซึ่งในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.7881 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.28 นอกจากนี้ ปัจจุบัน แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจีนกำลังดำเนินนโยบายลดอัตราค่าเข้าชมสถานที่/แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เนื่องจากค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวในจีนที่มีอัตราค่อนข้างสูง ซึ่งการลดค่าเข้าชมจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงสามารถดึงดูดตลาดการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ให้เพิ่มขึ้นด้วย รวมถึงจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยจะกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้เติบโตขึ้นด้วย [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย สามารถนำเสนอมหานครฉงชิ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจีน ที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ อาทิ หินแกะสลักต้าจู๋ อุทยานแห่งชาติอู๋หลง เขื่อนสามโตรก นอกเหนือจากกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครกว่างโจว และนครเฉิงตู ปัจจุบันสายการบินต่าง ๆ ได้เปิดให้บริการเส้นทางบินตรงจากฉงชิ่งไปยังเมืองต่าง ๆ ของไทยหลายเส้นทาง ดังนี้ [su_spacer size=”20″]
เที่ยวบินตรงฉงชิ่ง-กรุงเทพฯ ได้แก่
1) สายการบิน Thai Smile มีเที่ยวบิน 7 เที่ยว/สัปดาห์ (ทุกวันวันละ 1 เที่ยวบิน)
2) สายการบิน Air Asia มีเที่ยวบิน 7 เที่ยว/สัปดาห์ (ทุกวันวันละ 1 เที่ยวบิน)
3) สายการบิน Lion Air มีเที่ยวบิน 7 เที่ยว/สัปดาห์ (ทุกวันวันละ 1 เที่ยวบิน) [su_spacer size=”20″]
เที่ยวบินตรงฉงชิ่ง-ภูเก็ต ได้แก่
1) สายการบิน Southern Airlines มีเที่ยวบิน 7 เที่ยว/สัปดาห์ (ทุกวันวันละ 1 เที่ยวบิน)
2) สายการบิน Chongqing Airlines มีเที่ยวบิน 7 เที่ยว/สัปดาห์ (ทุกวันวันละ 1 เที่ยวบิน)
3) สายการบิน Lion Air มีเที่ยวบิน 4 เที่ยว/สัปดาห์ (วันจันทร์ พุธ พฤหัส และวันเสาร์)
4) สายการบิน Sichuan Airlines มีเที่ยวบิน 4 เที่ยว/สัปดาห์ (วันจันทร์ อังคาร พฤหัสและวันเสาร์) [su_spacer size=”20″]
เที่ยวบินตรงฉงชิ่ง-เชียงใหม่ ได้แก่
1) สายการบิน Shandong Airlines มีเที่ยวบิน 4 เที่ยว/สัปดาห์ (วันอังคาร พฤหัส เสาร์และวันอาทิตย์) [su_spacer size=”20″]
เที่ยวบินตรงฉงชิ่ง-เกาะสมุย ได้แก่
1) สายการบิน Bangkok Airways มีเที่ยวบิน 1 เที่ยว/สัปดาห์ (วันอาทิตย์) [su_spacer size=”20″]