ทุเรียนนับได้ว่าเป็นราชาผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจีน เมื่อปี 2564 จีนนำเข้าทุเรียนกว่า 821,500 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวนดังกล่าว จีนนำเข้าทุเรียนจากไทยมากถึงร้อยละ 90 ของปริมาณการนำเข้าทุเรียนทั้งหมดของจีน คิดเป็นมูลค่ากว่า 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน ไทยไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่ได้รับอนุญาตนำเข้าทุเรียนสดเข้ามายังจีนอีกต่อไป
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 กรมศุลกากรจีนประกาศอนุญาตนำเข้าทุเรียนสดจากเวียดนาม และมูลค่าการนำเข้าทุเรียนอันมหาศาลนี้ ทำให้เกษตรกรจีนเริ่มหันมาให้ความสนใจที่จะทดลองปลูกทุเรียนในประเทศจีน โดยเกษตรกรเมืองม้าวหมิง มณฑลกวางตุ้งที่ประสบความสำเร็จในการปลูกทุเรียนพันธุ์มูซานคิงและพันธุ์หนามดำที่นำต้นกล้ามาจากมาเลเซียไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งนอกเหนือจากความสำเร็จในมณฑลกวางตุ้งแล้ว มณฑลไห่หนานก็สำเร็จในการปลูกทุเรียนตามไปติด ๆ เช่นเดียวกัน
ปัจจุบันมณฑลไห่หนานหรือไหหลำ มีพื้นที่ปลูกทุเรียนได้ทั้งหมด 12,500 ไร่ และคาดว่าจะสามารถจำหน่ายทุเรียนออกสู่ตลาดจีนได้ภายในปี 2567 โดยมีทุเรียนป้อนสู่ตลาดปีละประมาณ 45,000 – 75,000 ตัน โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2557 บริษัท Hainan Huasheng Ecological Agriculture Development จำกัด ได้นำต้นกล้าจำนวน 44 ต้นมาปลูกในสวนเงาะและเกิดการติดผลครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2559 เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ครั้งแรกเมื่อปี 2562 และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 3 ปีติดต่อกัน ความสำเร็จดังกล่าวยังเป็นกระแสที่ทำให้แก่เกษตรรายอื่นในพื้นที่เริ่มหันมาให้ความสนใจในการปลูกทุเรียนมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากไทยต้องเผชิญกับความท้าทายจากทุเรียนจีนแล้ว ยังมีคู่แข่งในอาเซียนอีกด้วย เช่นทุเรียนมูซานคิงของมาเลย์เซียซึ่งเข้ามามีส่วนแบ่งทางการตลาดทุเรียนของไทยในจีนโดยใช้ความ “พรีเมียม” เป็นจุดขาย และล่าสุดเมื่อกรกฎาคม 2565 ทุเรียนเวียดนามก็ได้กลายเป็นผู้ท้าทายรายใหม่ที่น่าจับตามอง เมื่อกรมศุลกากรจีนประกาศอนุญาตนำเข้าทุเรียนสดจากเวียดนาม นอกจากนี้มีรายงานข่าวระบุว่า จีนจะอนุญาตให้นำเข้าทุเรียนจากฟิลิปปินส์ในอนาคตอันใกล้ ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยอาจต้องเตรียมรับมือความท้าทายนี้ด้วยการคิดค้นพัฒนาทุเรียนพรีเมี่ยมพันธุ์ใหม่ ๆ หรือสินค้าทุเรียนแปรรูปรูปแบบใหม่ เพื่อให้ “ความนิยมทุเรียนไทย” ยังคงครองใจผู้บริโภคชาวจีนต่อไป สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ทาง https://thaibizchina.com/article/durian-hainan-171022/
ข้อมูล : สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว
เรียบเรียง : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์