แม้ว่างานมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติ China-ASEAN Expo ครั้งที่ 19 ที่จัดขึ้น ณ นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ระหว่างวันที่ 16-19 กันยายน 2565 ได้ปิดฉากลงไปแล้ว แต่จะขอนำท่านผู้อ่านไปลัดเลาะ Thailand Pavilion พร้อมกับซอกแซกผู้ประกอบการส่องเทรนด์สินค้าไทยในตลาดจีน และเรียนรู้ Tips & Tricks ของการออกบูธให้ประสบความสำเร็จ
โดยในปีนี้ สินค้าไทยยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เข้าชมงาน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับ ของใช้และของตกแต่งบ้าน รวมถึงสุขภาพและความงาม ซึ่งเป็นเทรนด์สินค้ามาแรงปีนี้ โดยได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากชาวจีนเริ่มหันมามีไลฟ์สไตล์รักสุขภาพ ยอมจ่ายเพื่อแลกกับสินค้าคุณภาพและสุขภาพที่ดีของตัวเองมากขึ้น สินค้าที่เป็นที่นิยมในงาน ได้แก่ บราเพื่อสุขภาพ เอ็นเนอร์จีบาร์จากอินทผาลัม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ครีมทามือออร์แกนิก น้ำมันเหลือง และยาหม่องเขียวที่ช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้า
ซึ่งการไปเข้าร่วมงาน China-ASEAN Expo รับนั้นเหมือนได้รับ “โชคสองต่อ” กล่าวคือ โชคต่อแรก เป็นโอกาสแบ่งปันการไหลของสินค้า (Commodities flow) การไหลของเงินทุน (Capital flow) และการไหลของข้อมูล (Data flow) และ โชคต่อที่สอง สามารถนำสินค้าที่จัดแสดงในงาน China-ASEAN Expo นำไปจัดแสดงและจำหน่ายได้ที่ศูนย์ CAMEX (หากมูลค่าสินค้ายังอยู่ในโควตาที่กำหนด จะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีด้วย) ทั้งนี้ ศูนย์ CAMEX น่าจะเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มสำคัญที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนโอกาสทาการค้าและยกระดับขีดความสามารถของสินค้าและบริการระดับคุณภาพของไทยในตลาดจีนได้
นอกจากสินค้าต้องมีคุณภาพแล้ว การตั้งราคาให้เหมาะสมกับตลาดเป้าหมาย รวมถึงการใช้ลูกเล่นใน “สื่อโซเชียลมีเดีย” เพื่อดึงดูดความสนใจ ยังเป็นวิธีที่ช่วยให้สินค้าได้รับผลตอบรับดี โดยเฉพาะการไลฟ์สดผ่านแอปพลิเคชัน Tiktok ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศและโครงข่ายอินเทอร์เน็ตแห่งชาติจีน (CNNIC) ระบุว่า ณ เดือนมิถุนายน 2565 ประเทศจีนมี Netizen มากถึง 1,051 ล้านคน หรือมากกว่าคนไทยทั้งประเทศ 15 เท่า โดยเป็นผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ 1,047 ล้านคน ผู้ใช้งานคลิปสั้น 995 ล้านคน และมีผู้ใช้งาน Live Streaming แตะ 716 ล้านคน
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง