ชิงต่าว เมโทร กรุ๊ป ร่วมกับ บริษัท รถรางแห่งประเทศจีน ชิงต่าว ซื่อฟาง จำกัด ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการบนรางรถไฟฟ้าใต้ดินสาย 1 เมืองชิงต่าว นวัตกรรมนี้ทำให้เมืองชิงต่าวเป็นผู้นำรถไฟฟ้าใต้ดินของจีนทั้งในแง่ความก้าวหน้าทางวิทยาการและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีความแข็งแรงสูง น้ำหนักเบา ทนต่อการกัดกร่อนและทนต่ออุณหภูมิสูง นับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางของโลก
ซึ่ง ถ้านซิง คือรถไฟขบวนแรกที่ประสบความสำเร็จในการนำวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้ในโครงสร้างหลังที่รองรับน้ำหนักของรถไฟใต้ดินเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ นับเป็นความก้าวหน้าสำคัญในอุตสาหกรรมระบบขนส่งทางรางของโลก โดยสามารถแก้ปัญหาที่สำคัญ (pain point)
สามประการได้สำเร็จ คือ 1) สามารถออกแบบโครงสร้างหลักที่มีความซับซ้อนขนาดใหญ่ 2) สามารถผลิตรถไฟที่มีประสิทธิสภาพสูงและต้นทุนต่ำ และ 3) สามารถรับประกันการใช้งาน
ถ้านซิง ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพทั้งในระดับระบบตัวถังรถทั้งขบวนอย่างครบถ้วนเพื่อยืนยันสมรรถนะในทุกด้านของรถไฟ และสิ่งที่แตกต่างจากรถไฟใต้ดินแบบดั้งเดิมโดยมีกร “อัปเกรด 5 ประการ” ได้แก่
1. ตัวรถที่เบาขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับรถไฟที่ใช้วัสดุแบบดั้งเดิม ถ้านซิงที่ใช้ไฟเบอร์มีน้ำหนักตัวรถลดลง 25% และน้ำหนักช่วงล่างลดลง 50% รวมแล้วทั้งขบวนมีน้ำหนักลดลงประมาณ 11% ด้วยตัวรถที่เบาลงทำให้ประหยัดพลังงานในการวิ่งลดลง 7% ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 130 ตันต่อปี ต่อ 1 ขบวน ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกป่า 63 ไร่
2. การโดยสารที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยการใช้วัสดุร้านคาร์บอนไฟเบอร์ ถ้านซิงมีประสิทธิภาพในการลดแรงสั่นสะเทือนและลดแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกนิ่มนวลเมื่อโดยสารรถไฟนี้ นอกจากนี้ ถ้านซิงยังนำเทคโนโลยีดบกี้แบบปรับทิศทางเชิงรัศมี คือ เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสึกหรอของล้อและรางรถไฟ โดยเฉพาะเมื่อรถไฟต้องผ่านทางโค้งที่มีรัศมีแคบและยังลดเสียงดังขณะผ่านทางโค้ง 15 เดซิเบล และเสียงภายในตัวรถลดลง 2 เดซิเบล ทำให้การเดินทางเงียบสงบยิ่งขึ้น
3. มีความแข็งแกร่งขึ้น เมื่อเทียบกับตัวรถที่ทำจากวัสดุโลหะแบบดั้งเดิม รถไฟคาร์บอนไฟเบอร์นี้มีความแข็งแกร่งของตัวรถที่สูงกว่า ทำให้มีระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ โครงสร้างช่วงล่างที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มีความสามารถในการทนต่อแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น มีความทนทานต่อการใช้งานต่อเนื่องมากกว่า และมีอายุการใช้งานของโครงสร้างที่ยาาวนานขึ้นอีกด้วย
4. การสึกหรอระหว่างล้อและรางที่ลดลง ตัวรถที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์มีน้ำหนักเบาขึ้น ซึ่งช่วยลดน้ำหนักของแกนล้อ ส่งผลให้แรงกระทำระหว่างล้อและรางลดลงมากกว่า 15% ทำให้การสึกหรอระหว่างล้อและรางลดลง
5. ต้นทุนการบำรุงรักษาที่ลดลง นอกจากการลดการสึกหรอระหว่างล้อและราง ทำให้ประหยัดค่าบำรุงรักษาล้อและรางของรถไฟลดลงแล้วนั้น รถไฟขบวนนี้ยังนำ “สมาร์ทแคร์” เทคโนโลยีดิจิทัลทวินส์ คือการสร้างแบบจำลองดิจิทัลของวัตถุ โดยแบบจำลองนี้จะเป็นโมเดลจำลองในโลกเสมือนที่สมจริงราวกับ “คู่แฝด” ที่จะช่วยให้ตรวจสอบ วิเคราะห์ และเพิ่มประสิทธิภาพของวัตถุผ่านโมเดล ซึ่งช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษา ทั้งนี้ จากการประมาณการ ต้นทุนการบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งานของรถไฟขบวนนี้ถึง 22 %
อย่างไรก็ตาม ถ้านซิง คือจุดเริ่มต้นของการนำร่องรถไฟฟ้าใต้ดินของจีน หากเป็นรูปธรรม จะพลิกโฉมของรถไฟฟ้าใต้ดินทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สอดคล้องกับเป้าหมาย “คาร์บอนคู่” ที่รัฐบาลจีนพยายามส่งเสริมมาตั้งแต่ปี 2020
ข้อมูล: สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว
เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์
![](https://globthailand.com/wp-content/uploads/2025/02/infographics-2_11zon-2-819x1024.webp)