จีนออกนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ “4+4+6” เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของเมืองเซี่ยเหมิน โดยการพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมหลัก 4 สาขาแรก ได้แก่ (1) คลัสเตอร์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตจอแสดงผล คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร Semiconductor และ IC รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ได้แก่ (1) IoT (2) AI (3) Big Data (4) Cloud Computing (5) Blockchain และ (6) Metaverse และตั้งเป้าหมายการเพิ่มมูลค่าการผลิตของคลัสเตอร์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะให้สูงกว่า 1 ล้านล้านหยวน (2) คลัสเตอร์อุตสาหกรรมเครื่องจักรและอุปกรณ์ เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ อุตสาหกรรมการผลิตและซ่อมบำรุงอากาศยาน และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (3) คลัสเตอร์อุตสาหกรรมการค้าและโลจิสติกส์ เน้นการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็น และระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างเมืองเซี่ยเหมินเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ และศูนย์กลางการขนส่งระหว่างประเทศ...
Read moreคงเป็นชื่อที่หลายคนคุ้นหูมากขึ้น ภายหลังจากช่วงที่ผ่านมาบริษัท BYD Auto ได้ส่งยานยนต์ไฟฟ้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย บริษัท BYD Auto ไม่เพียงแต่จะมีแผนการนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้ามายังประเทศไทยเท่านั้น บริษัท BYD Auto ยังได้ตัดสินใจลงทุนรวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาทในประเทศไทย ในโครงการจัดตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบยานยนต์แบตเตอรี่ (Electronic Vehicles: EV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก (Plug-In Hybrid Electric Vehicle: PHEV) กว่า 3 รุ่น ที่นิคมอุตสาหกรรม WHA จังหวัดระยองที่คาดว่าจะเกิดการจ้างงานกว่า 10,000 ตำแหน่ง...
Read moreปัจจุบัน ยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles - EV) เป็นทางเลือกด้านการคมนาคมที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลกทั้งในด้านราคา และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ หลายประเทศจึงเริ่มเปลี่ยนมาใช้ EV และพัฒนาระบบสถานีชาร์จไฟฟ้าตามสถานที่ต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อลดมลพิษทางอากาศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และลดผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาครัฐหลายประเทศมีนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า เช่น ยกเว้นภาษีจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนลดภาษีรถยนต์รายปี...
Read moreไม่นานมานี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ได้ออกนโยบายขับเคลื่อนรถไฟฟ้า (electric vehicle) หรือรถ EV ให้เป็นยานพาหนะแห่งอนาคต เพื่อแก้ปัญหาพลังงาน ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ รวมถึงสร้างงานให้กับประชาชน ในปี ค.ศ. 2022 จํานวนรถ EV ภายในรัฐนิวเซาท์เวลส์ มีจํานวนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคมของปี ค.ศ...
Read moreจากการที่รัฐบาลสิงคโปร์ตั้งเป้ายุติการใช้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปล้วน (Internal Combustion Engine – ICE) ภายในปี 2583 นั้น ภาครัฐบาลและเอกชนสิงคโปร์ต่างเร่งดำเนินการรองรับเป้าหมายดังกล่าว โดยการจัดตั้งสถานีเติมไฟฟ้าทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าในปี 2573 จำนวนสถานีเติมไฟฟ้าสำหรับ EVs ในสิงคโปร์จะเพิ่มขึ้นเป็น 60,000 แห่ง จากในปี 2564 จำนวน 1,800 แห่ง...
Read moreกระแสของรถยนต์ไร้มลพิษ (Zero Emission Vehicle) โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) กำลังเป็นที่สนใจไปทั่วโลก เนื่องจากช่วยลดปัญหาโลกร้อนและมลพิษทางอากาศ เช่นเดียวกัน สหภาพยุโรปมีการวางแนวทางและนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนให้คนของประเทศตนเองใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์สันดาป (Internal combustion engine - ICE) ซึ่งนอกจากจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) และลดภาระรายจ่ายในการนำเข้าน้ำมันแล้ว ยังถือเป็นโอกาสพลิกโฉมภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ยุโรปซึ่งมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีให้ดึงดูดนักลงทุน และรักษาฐานการผลิตรถยนต์ของประเทศไว้ได้ โดยเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน...
Read moreเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2565 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ได้จัดงาน Dinner Talk เกี่ยวกับ EEC ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต โดยมีผู้เข้าร่วมจาก Danish-Thai Business Network (https://www.danthainet.com) ซึ่งเป็นเครือข่ายทางการค้าและการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการเดนมาร์กที่มีความสนใจที่จะประกอบธุรกิจและลงทุนในประเทศไทย ผู้แทนสมาคมมิตรภาพเดนมาร์ก-ไทย (Danish - Thai Society) รวมถึงผู้แทนจาก Trade Council และกรมเอเชียฯ...
Read moreตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ เติบโตอย่างมากในช่วงปี 2564 แม้จะประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ทุกประเภทในปี 2563-2564 โดยมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 6 แสนคันจากยอดขายรถยนต์แบบ light vehicle ทั้งหมด 14.9 ล้านคัน โดยมี Tesla เป็นผู้นําในการทํายอดขายอยู่ที่ 3.02 แสนคัน และขณะนี้การแข่งขันการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น จากทั้งค่าย General Motor และ Ford ที่เริ่มมียอดแบ่งสัดส่วนทางการตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ยังไม่รวมถึงค่ายรถจากเยอรมนีและญี่ปุ่นที่เริ่มทยอยประกาศแผนการจัดตั้งฐานการผลิตรถไฟฟ้าในตลาดสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 สหรัฐฯ ได้ประกาศแผนงานการพัฒนาเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ เพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า 5 แสนจุด ภายในปี 2573 โดยมีสาระสําคัญดังนี้ แผนงานที่ดําเนินการแล้ว ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาได้จัดทำโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จรถไฟฟ้า โดยจัดสรรเงินลงทุนภายใต้กฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน จํานวน 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สําหรับโครงการ National Electric Vehicle Infrastructure (NEVI) เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้แก่รัฐในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานริมทางหลวงและพื้นที่ห่างไกล และ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สําหรับเป็นเงินสนับสนุน (competitive grant) ให้แก่ผู้ที่ได้รับคัดเลือกในการจัดทําโครงการพัฒนาคุณภาพอากาศ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและชุมชนด้อยโอกาส พร้อมทั้งจัดสรรเงินลงทุนจํานวน 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สําหรับการจัดหาแร่ธาตุที่จําเป็นสําหรับการผลิตแบตเตอรี่ ชิ้นส่วน และการรีไซเคิลอีกด้วย นอกจากนี้ ยังได้สร้างความร่วมมือกับกลุ่มผู้ผลิตและแรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อบรรลุเป้าหมายการผลิตร้อยละ 50 ของรถยนต์ใหม่ให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ภายในปี2573 ยิ่งไปกว่านั้น สหรัฐฯ ได้กระตุ้นการลงทุนมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จากภาคเอกชนในอุตสาหกรรมการผลิตรถไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน และความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ สำหรับแผนงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่ได้รับการดำเนินการแล้ว ได้แก่ ให้อํานาจแต่ละรัฐในการจัดซื้อยานยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาด โดยให้จัดซื้อยานยนต์ขนาดเล็ก (zero-emission light-duty vehicles) ทั้งหมด ภายในปี 2570 และรถยนต์ประเภทอื่น ๆ ภายปี 2578 และกําหนดมาตรฐานสูงสุดของการปล่อยไอเสียยานยนต์ และการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง แผนงานที่สำคัญของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ 1. กระทรวงพลังงาน และกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมกันจัดตั้ง Joint Office of Energy...
Read moreจีนเปิดเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงต่างประเทศสายใหม่ระหว่างจีน-เมียนมา (นครฉงชิ่ง เมืองหลินชาง-ประเทศเมียนมา) อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 โดยเดินทางออกจากท่าเรือกว่อหยวน เขตเศรษฐกิจใหม่เหลี่ยงเจียง นครฉงชิ่ง ไปยังเมืองมัณฑะเลย์ เมียนมา มีการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 60 ตู้ ภายในมีสินค้าประเภทต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์เครื่องกล...
Read moreสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่พึ่งพาการคมนาคมขนส่งทางรางเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาสวิตเซอร์แลนด์ได้ลงทุนหลายร้อยล้านฟรังก์สวิสในการป้องกันเสียงรบกวนจากรถไฟ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งแผงกั้นเสียง (noise barriers) พัฒนาระบบล้อและเบรคของรถไฟ และมีเป้าหมายที่จะลดมลภาวะทางเสียงให้ได้ร้อยละ 80 ภายในปี 2568 อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงสัญจรด้วยรถไฟและยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางกลุ่มนักวิจัยจากสถาบัน Empa ร่วมกับ Vaud School of Economics and...
Read more© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.