รัฐบาลจีนได้ประกาศแผนนโยบายอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถลงทุนเปิดโรงพยาบาลเอกชนเต็มรูปแบบในจีนเป็นครั้งแรก เปิดโอกาสให้นักลงทุนต่างชาติสามารถตั้งโรงพยาบาลใน 9 เมืองสำคัญ ได้แก่ กรุงปักกิ่ง นครเทียนจิน นครเซียงไฮ้ นครกว่างโจว เมืองเซินเจิ้น เมืองหนานหนิง เมืองซูโจว เมืองฟูโจว และมณฑลไห่หนาน โดยโรงพยาบาลที่เปิดให้การบริการจะต้องเป็นโรงพยาบาลทั่วไปหรือโรงพยาบาลเฉพาะทางระดับ 3 ซึ่งจะต้องมีมาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูงและเป็นไปตามข้อกำหนดของจีน รวมถึงกฎหมายการจัดการยาและวัคซีน นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดสำคัญ เช่น นักลงทุนต่างชาติห้ามเปิดโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน เนื่องจากจีนมองว่าโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนเป็นมรดกทางวัฒธรรมที่สำคัญและล้ำค่าของจีน อีกทั้งโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนส่วนใหญ่เป็นของรัฐบาล นอกจากนี้ยังห้ามดำเนินการในด้านจิตเวช การปลูกถ่ายอวัยวะ หรือการวิจัยทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงสูง และจะต้องจ้างบุคลากรชาวจีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนบุคลากรทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านแรงงานของจีน และการเสริมสร้างโอกาสภายในจีน ส่วนข้อมูลทางการแพทย์ทุกประเภทจะต้องจัดเก็บและประมวลผลภายในจีนเท่านั้น
โดยนครกว่างโจวและเมืองเซินเจิ้นนั้นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากนครกว่างโจวเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและมีตลาดการแพทย์ที่ใหญ่ รวมไปถึงการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจและการค้าทางตอนใต้ มีอุตสาหกรรมการแพทย์ที่ทันสมัย ต้นทุนไม่สูงมาก เป็นแหล่งผลิตยาและเวชภัณฑ์ที่สำคัญของจีน อีกทั้งยังมีการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเมืองเซินเจิ้น เป็นเมืองที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางในการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญของจีน ที่สำคัญ เมืองเซินเจิ้นมีฐานลูกค้าในกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีความต้องการบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและทันสมัย นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบาลในการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมสุขภาพที่มีนวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง
สำหรับโอกาสและความท้าทายของนักลงทุนไทยนั้น สถาบันเสริมความงามและบ้านพักคนชรามีความต้องการสูงในจีนนั้นเป็นโอกาสที่น่าสนใจ เนื่องจากไทยมีจุดแข็งด้านการบริการที่ได้รับการยอมรับในหลายประเทศ ซึ่งชาวจีนมักมองหาบริการที่มีคุณภาพและใส่ใจการดูแลลูกค้า โดยเฉพาะธุรกิจสถาบันเสริมความงามที่ได้รับความนิยมสูงและสถาบันความงามจากไทยจะดึงดูดลูกค้าได้ดี เนื่องจากมาตรฐานการบริการของไทยพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยของจีน ที่คนจีนคุ้นเคยและให้ความเชื่อมั่นกับประสิทธิภาพอยู่แล้ว แต่จีนยังคงมีข้อจำกัดในการจ้างหมอนวดที่เป็นชาวต่างชาติที่กำหนดคุณสมบัติไว้ค่อนข้างซับซ้อน อาทิ ต้องจบการศึกษาจากสถาบันที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ผู้ประกอบการจึงอาจต้องเพิ่มความรอบคอบในการเปิดธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้วย นอกจากนี้ ธุรกิจบ้านพักคนชราก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรจีนที่กำลังเผชิญกับสังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การให้บริการที่ดูแลผู้สูงอายุด้วยมาตรฐานการบริการจากไทยจะเป็นที่ยอมรับและตอบโจทย์ในตลาดจีนได้ดี
อย่างไรก็ดี การลงทุนในจีนยังมีความท้าทาย ซึ่งนักลงทุนไทยจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เช่น ความเข้าใจในกฎหมายและข้อบังคับของจีน รวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นและพฤติกรรมผู้บริโภคในจีน ซึ่งแตกต่างจากไทย ทั้งนี้ การสร้างพันธมิตรกับธุรกิจท้องถิ่นและการศึกษาความต้องการของตลาดอย่างละเอียดจะช่วยให้การลงทุนของนักลงทุนไทยมีโอกาสประสบความสำเร็จในจีน
ข้อมูล: สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว
เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์
