Friday, June 6, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

สถานการณ์ของยุโรปหลังยูเครนยุติการอนุญาตขนส่งก๊าซผ่านรัสเซีย

17/01/2025
in ทันโลก, พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
0
สถานการณ์ของยุโรปหลังยูเครนยุติการอนุญาตขนส่งก๊าซผ่านรัสเซีย
0
SHARES
282
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 ยูเครนได้ยุติการอนุญาตให้ขนส่งก๊าซจากรัสเซียผ่านไปยังยุโรป เนื่องจากสิ้นสุดข้อตกลงการขนส่งระยะเวลา 5 ปี ระหว่างรัสเซียกับยูเครน และยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงฉบับใหม่ ท่ามกลางสงครามที่ยังดำเนินอยู่ โดยสัดส่วนการพึ่งพาพลังงานจากแหล่งต่างๆ ของอียู ในปี 2567 อียูได้ใช้พลังงานหมุนเวียนร้อยละ 45 พลังงานนิวเคลียร์ร้อยละ 23 และน้ำมัน/ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินร้อยละ 32 ซึ่งร้อยละ 18 จากจำนวนนี้เป็นพลังงานที่นำเข้าจากรัสเซียและร้อยละ 5 ส่งผ่านยูเครน ในส่วนที่เหลือจะมีการส่งผ่านทาง Turk Stream

ในส่วนของผลกระทบระยะสั้นที่เกิดจากยูเครนยุติการขนส่งก๊าซจากรัสเซียผ่านไปยังยุโรป จะมีดังนี้ Gas Infrastructure Europe คาดการณ์ว่า แม้ราคา Dutch TFF ซึ่งเป็นบรรทัดฐานสำหรับก๊าซธรรมชาติในยุโรป พุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 4 เป็น 51 ยูโร/Mwh ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 แต่ยุโรปจะยังไม่เผชิญกับวิกฤตด้านพลังงานและจะไม่มีผลกระทบต่อผู้บริโภคในทันที เนื่องจากหลายประเทศ เช่น ฮังการี เชคเกีย ออสเตรีย สาธารณรัฐสโลวัก ที่เคยพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียยังมีก๊าซสำรองจำนวนมาก อย่างไรก็ดี ยุโรปยังคงเปราะบางต่อความผันผวนของตลาดพลังงาน หากมีการตั้งเป้าที่จะทดแทนก๊าซธรรมชาติที่เคยได้รับจากรัสเซียจากแหล่งพลังงานอื่น อีกทั้งมีความเสี่ยงว่าภายหลังฤดูหนาวในช่วงต้นปี 2568 ยุโรปจะเหลือก๊าซธรรมชาติน้อยลงและค่าใช้จ่ายในการเพิ่มปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองจะเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งสาธารณรัฐสโลวัก ซึ่งเคยได้รับค่าธรรมเนียมในการส่งผ่านก๊าซจากรัสเซียมายังยุโรป สูญเสียรายได้หลายสิบล้านยูโร/ปี จึงพยายามร่วมมือกับฮังการี ในการกระชับความร่วมมือด้านพลังงานกับรัสเซีย ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้นำอียู โดยเมื่อ 22 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรี Robert Fico ของสาธารณรัฐสโลวักได้เดินทางไปพบประธานาธิบดีปูติน เพื่อเจรจาให้ยังคงส่งก๊าซผ่านยูเครนแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

อีกทั้ง ผลกระทบต่อประเทศในยุโรปในระยะยาว คือ ราคาพลังงานที่สูงขึ้นจะยิ่งส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถด้านการแข่งขันของอียูและเพิ่มค่าใช้จ่ายในครัวเรือน นอกจากนี้ราคาก๊าซในยุโรปอาจเพิ่มสูงขึ้นหากยุโรปมีนโยบายที่จะเพิ่มการนำเข้า LNG และคาดว่านอกเหนือจาก ฮังการี เชคเกีย ออสเตรีย สาธารณรัฐสโลวัก เยอรมนีซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจของอียูจะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบด้านราคาพลังงานมากที่สุด เนื่องจากภาคการผลิตของเยอรมนี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเคมี โลหะ ใช้พลังงานถึงเกือบร้อยละ 80 ของภาคอุตสาหกรรม ประเทศยุโรปกลาง โดยเฉพาะฮังการีและสาธารณรัฐสโลวักจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากก๊าซของรัสเซียที่ได้รับผ่านเส้นทางยูเครนได้สนับสนุนการบริโภคภายในประเทศถึงร้อยละ 65 เมื่อปี 2566

ทั้งนี้ คณะกรรมธิการยุโรปอยู่ระหว่างการจัดทำ roadmap ในการลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย ทั้ง LNG และพลังงานนิวเคลียร์ รวมถึงการไม่ซื้อพลังงาน resale จากรัสเซีย (ปัจจุบัน ฝรั่งเศสและเบลเยียมเป็นศูนย์กลางการนำเข้าพลังงานดังกล่าวประกาศจะดำเนินตาม roadmap) ในไตรมาสแรกของ ค.ศ. 2025 และเพิ่มการนำเข้าก๊าซจากกรีซ ทูร์เคียและโรมาเนีย ผ่านเส้นทาง Trans-Balkan แทน อีกทั้งประธานคณะกรรมาธิการยุโรปได้ตอบรับท่าทีของ Donald Trump ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เสนอ ให้อียูเพิ่มการนำเข้า LNG จากสหรัฐฯ มิเช่นนั้นจะต้องถูกขึ้นภาษี ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2566 อียูได้มีการนำเข้า LNG จากสหรัฐฯ ถึงร้อยละ 49.4 แม้ว่าการนำเข้า LNG ได้เสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของอียู แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการขนส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมาก เนื่องจากการขนส่งและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขนส่ง และในส่วนของโปแลนด์ ในฐานะประธานคณะมนตรีสหภาพยุโรป ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 ได้ประกาศนโยบาย “Security Europe” โดยเน้นด้านการป้องกันประเทศและพลังงาน ซึ่งรวมถึงการลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซียและเพิ่มมาตรการลงโทษสาขาพลังงานให้เข้มข้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการไม่นำเข้า LNG resale จากรัสเซีย

เมื่อปี 2566 อียูนำเข้าก๊าซธรรมชาติ ร้อยละ 53.4 จากนอร์เวย์ ร้อยละ 15.9 จากแอลจีเรีย ร้อยละ 12.7 จากรัสเซีย (ลดลงจากปี 2564 กว่าร้อยละ 45 ซึ่งเป็นผลกระทบจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์) และร้อยละ 3 จากอาเซอร์ไบจาน โดยนอร์เวย์มีค่าไฟสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอียู 6 เท่า ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากพลังงานลมที่นอร์เวย์นำเข้าจากทวีปยุโรปประมาณร้อยละ 10 ของพลังงานไฟฟ้าของนอร์เวย์ไม่เสถียร ส่งผลให้ 2 พรรคการเมืองในรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะยุติการเชื่อมโยงระบบพลังงานกับเดนมาร์กในปี 2569 รวมทั้งกำลังทบทวนการเชื่อมโยงระบบพลังงานกับสหราชอาณาจักรและยุโรป ถึงแม้ค่าไฟฟ้าในนอร์เวย์จะลดลงหากการผลิตพลังงานลมในยุโรปกลับมาสู่ระดับปกติ แต่ค่าไฟฟ้าที่พุ่งขึ้นได้ก่อให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องการเชื่อมโยงพลังงานกับทวีปยุโรป เนื่องจากพลังงานน้ำของนอร์เวย์เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่สำคัญของยุโรปและนอร์เวย์เป็นผู้ผลิตปิโตรเลียมและก๊าซที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปตะวันตก แต่กลับต้องจ่ายค่าพลังงานไฟฟ้าที่สูงกว่าประเทศในอียู ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างอียูกับอาเซอร์ไบจานรวมทั้งประเทศในเอเชียกลางอื่นๆ เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน อุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเท่ากับปริมาณ ร้อยละ 50 ของ GDP อาเซอร์ไบจาน และมากกว่าร้อยละ 90 ของรายได้จากการส่งออก โดยมีสัดส่วนการส่งออกไปยังอียูมากที่สุดผ่านท่อก๊าซในจอร์เจียและทูร์เคียไปยังกรีซ แอลเบเนียละอิตาลี ซึ่งเป็นร้อยละ 7 ของก๊าซที่เข้าไปยังอียูผ่านทางท่อก๊าซ ในเดือนกรกฎาคม 2565 อียูกับอาเซอร์ไบจานได้ลงนามใน MOU on Strategic Partnership in the Field of Energy ซึ่งอาเซอร์ไบจานจะส่งออกก๊าซไปยังยุโรปเพิ่มเป็น 2 เท่า (20 พันล้านลูกบาศก์เมตร) ภายในปี 2570 ซึ่งในปี 2565 และ 2566 อาเซอร์ไบจานส่งออกก๊าซไปยังอียูจำนวน 11.4 พันล้านลูกบาศก์เมตรและ 11.8 พันล้านลูกบาศก์เมตร ตามลำดับไปยังโรมาเนีย ฮังการี สาธารณรัฐสโลวัก โครเอเชีย อิตาลี บัลแกเรียและกรีซ ทั้งนี้ก่อนข้อตกลงการขนส่งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนจะสิ้นสุด ได้มีความพยายามของฝ่ายต่างๆ ที่จะให้อาเซอร์ไบจานเป็นช่องทางซื้อก๊าซจากรัสเซียก่อนส่งออกมายังยุโรป แต่การเจรจาดังกล่าวยังไม่ลุล่วง

แม้อียูจะมีความคืบหน้าในการเปลี่ยนผ่านสู่แหล่งพลังงานทดแทนเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่อียูประสบปัญหาในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งมีความไม่แน่นอน/ไม่เสถียร และมีค่าใช้จ่ายสูง นอกจากนี้ นโยบายของอียูในการผลักดันพลังงานทดแทนได้ส่งผลให้อียูพึ่งพา critical raw materials และเทคโนโลยีสะอาด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากจีนและก่อให้เกิดข้อกังวลเรื่องความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ในบริบทความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และข้อพิพาททางการค้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของอียูที่เพิ่มมากขึ้นในด้านพลังงานและข้อจำกัดของยุทธศาสตร์ของอียูในการบรรลุความมั่นคงด้านพลังงาน ส่งผลกระทบต่อความพยายามของอียูที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

ทั้งนี้ รัฐมนตรีพลังงานของกาตาร์เตือนว่ากาตาร์จะยุติการส่งออก LNG ไปยังอียู หากอียูใช้มาตรการลงโทษกาตาร์ด้วยกฏหมาย Corporate Sustainability Due Deligence Directive (CSDDD) ซึ่งกำหนดให้ตรวจสอบห่วงโซ่อุปทานว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ อีกทั้งกำหนดบทลงโทษถึงร้อยละ 5 ของรายได้จากการส่งออกสินค้านั้นๆ อย่างไรก็ตามกาตาร์ไม่สามารถรับค่าปรับดังกล่าวได้ โดยเฉพาะผลกระทบต่อภาคพลังงานของกาตาร์และรายได้ของกาตาร์ ทั้งนี้ยังมีข้อตกลงการส่งออก LNG ในระยะยาวกับเยอรมนี ฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์

ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ / คณะผู้แทนไทยประจำสหภาพยุโรป

Tags: #globthailand#globทันโลก#ก๊าซ#ขนส่งก๊าซ#ข่าว#ข่าวต่างประเทศ#ข่าววันนี้#ข่าวเศรษฐกิจ#คมนาคม#พลังงาน#ยุโรป#รัสเซีย#เศรษฐกิจต่างประเทศ20252568slideshow
Previous Post

“แบตเตอรี่ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก“ จากสวีเดนที่อาจเปลี่ยนโฉมโทรศัพท์และยานยนต์ไฟฟ้าอย่างสิ้นเชิง

Next Post

‘Xanh SM’ บริการแท็กซี่ไฟฟ้าเวียดนามขยายธุรกิจก้าวสู่อินโดนีเซีย

Globthailand

Globthailand

Next Post
‘Xanh SM’ บริการแท็กซี่ไฟฟ้าเวียดนามขยายธุรกิจก้าวสู่อินโดนีเซีย

‘Xanh SM’ บริการแท็กซี่ไฟฟ้าเวียดนามขยายธุรกิจก้าวสู่อินโดนีเซีย

Post Views: 973

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025
กาตาร์เดินหน้าพัฒนาเกาะธรรมชาติ สร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศยั่งยืน

กาตาร์เดินหน้าพัฒนาเกาะธรรมชาติ สร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศยั่งยืน

04/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X