เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 Confederation of Indian Industries (CII) สมาพันธ์อุตสาหกรรมอินเดีย ได้จัดงาน Global Economic Forum 2023 และ Nirmala Sitharaman รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอินเดีย กล่าวเปิดงานและเน้นย้ำถึงความสำคัญของ Global Economic Forum ในฐานะเวทีสำหรับผู้นำระดับโลกในการอภิปรายวาระของโลกในอีก 25 ปีข้างหน้า และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มประเทศโลกใต้ (Global South)
ประเด็นเกี่ยวกับกลุ่มประเทศโลกใต้ (Global South)
โดย Nirmala มองว่า การที่เหล่าประเทศพัฒนาแล้วปรับการจัดเก็บภาษีข้ามพรมแดนสำหรับมาตรการเพื่อสิ่งแวดล้อม อาทิ มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ของสหภาพยุโรป นั้นผิดศีลธรรมและขัดต่อผลประโยชน์ของ Global South นอกจากนี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่จะทำให้เกิดเศรษฐกิจที่มีความโปร่งใส มีการปกครองที่ดี และทุกภาคส่วนได้รับผลประโยชน์ สำหรับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และ Global South
ประเด็นเกี่ยวกับศักยภาพของอินเดีย
ศาสตาจารย์ Ricardo Hausmann ผู้ก่อตั้ง Harvard’s Growth Lab และ Rafik Hariri Professor of the Practice of International Political Economy มองว่า อินเดียเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ ที่เต็มไปด้วยศักยภาพในการเติบโตและความหลากหลาย สำหรับประเด็นด้านการลดคาร์บอน ศาสตาจารย์ Ricardo สนับสนุนการสร้างโรงงานพลังงานสีเขียวในรูปแบบ Plug-and-Play เพื่อดึงดูดอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ประเด็นเกี่ยวกับศักยภาพของเอเชียใน Session : Asia, Emerging Economic Centre: Driving Global Growth and Resilience
เป็น session ที่เน้นเกี่ยวกับศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นของเอเชียและบทบาทสำคัญในการกำหนดพลวัตโลก กล่าวถึงการที่เอเชียมีความสำคัญและอิทธิพลทางเศรษฐกิจและภูมิศาสตร์การเมืองเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นใน GDP โลกและการค้าระหว่างประเทศ อีกทั้งยังมีการเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการควบคุมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและเสริมความแข็งแกร่งให้ห่วงโซ่อุปทานเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
Mr. Tetsuya Watanabe ประธาน Economic Research Institute for ASEAN and East Asia (Indonesia) กล่าวว่า อินเดียและอาเซียนยังเต็มไปด้วยประชากรที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และคาดว่าจะเป็นผู้นำการเติบโตของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ อินเดียและอาเซียนต่างมีเครือข่ายการผลิตและห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น แข็งแกร่งและทนทานต่อการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งอินเดียและอาเซียนเป็นแรงชี้นำที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจ แม้ว่าการเติบโตทั่วโลกจะอยู่ที่ 3% แต่คาดว่าจะมีการเติบโตมากกว่า 6% สำหรับอินเดีย และ 5% สำหรับอาเซียน
กระทรวงการต่างประเทศอินเดีย กล่าวว่า เอเชียกลายเป็นจุดหมายที่น่าดึงดูดสำหรับการค้าในระดับโลก เนื่องจากอุดมไปด้วยแรงงานที่มีทักษะ (skilled labour) และระดับรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งกล่าวถึง MSME ว่าควรมีบทบาทมากขึ้นในการเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชีย
ข้อมูล : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี
เรียบเรียงโดย : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์