ที่มาของภาพ Port of Vigo. Handbook.
ท่าเรือเมืองบีโก (Vigo) นับเป็นหนึ่งในท่าเรือสำคัญของสเปน โดยเป็นทั้งท่าเรือประมง (แห่งแรกของสเปน) และเป็นท่าเรือสินค้าที่มีปริมาณการขนส่งสินค้ามากที่สุดในแคว้นกาลิเซีย ครอบคลุมแนวชายฝั่ง 5 จังหวัดของแคว้นกาลิเซีย ได้แก่ Vigo Redondela Vilaboa Moaña และ Cangas มีพื้นที่ท่าเรือบนบก 2.5 ล้านตารางเมตร และถือเป็นท่าเรือยุทธศาสตร์ของสเปนที่เป็นประตูกระจายสินค้าเข้าสู่ยุโรปตอนใต้และยังเชื่อมต่อกับภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ลาตินอเมริกา และแอฟริกา
ศักยภาพของท่าเรือบีโกและจุดเด่นด้านนโยบายสิ่งแวดล้อม
ท่าเรือประมง
ท่าเรือบีโกเป็นหนึ่งในท่าเรือประมงที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ภายในมีตลาดประมูลปลา 5 แห่ง ได้แก่ ตลาดปลาชายฝั่งและปลาขนาดใหญ่ ตลาดปลาน้ำลึก ตลาดปลาชายฝั่ง (ออนไลน์) ตลาดอาหารทะเล (ออนไลน์) และตลาดปลาแช่แข็ง (ออนไลน์)
อนึ่ง แคว้นกาลิเซียเป็นพื้นที่ที่มีแหล่งทำประมงที่สำคัญที่สุดของสเปน และเป็นอันดับ 1 ของยุโรป โดยมีโรงงานอุตสาหกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการประมงตั้งอยู่กว่า 200 บริษัท ในแต่ละปีจะมีการจัดงานแสดงสินค้า Conxemar หรือ International Frozen Seafood Exhibition ที่จังหวัดบีโก ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จัดโดยสมาคม Conxemar (สมาคมผู้ค้าส่ง ผู้นำเข้า-ส่งออก และผู้ผลิตสินค้าอาหารทะเลและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของสเปน) โดยงาน Conxemar ครั้งล่าสุด จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 5 ตุลาคม ค.ศ. 2023 (https://www.conxemar.com/en/feria-2023/)
ท่าเรือขนส่งสินค้า
ในปี ค.ศ. 2023 ปริมาณการขนส่งสินค้าของท่าเรือบีโกอยู่ที่ 4.71 ล้านตัน และมีปริมาณการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ 226,129 TEUs โดยสินค้าหลักที่ขนส่งผ่านท่าเรือดังกล่าว ได้แก่ ปลาแช่แข็ง 617,000 ตัน หินแกรนิต 490,000 ตัน และเหล็ก 383,000 ตัน รวมถึงรถยนต์หลายยี่ห้อ อาทิ Peugeot, Citroën, Renault, Mercedes Benz และ Toyota ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากที่จังหวัดบีโกเป็นสถานที่ตั้งของโรงงานผลิตรถยนต์ Grupo PSA Peugeot Citroën
นอกจากนี้ ท่าเรือฯ ยังมีการให้บริการ LOLO (Lift On Lift Off) หลายเส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางขนส่งคอนเทนเนอร์ 25 เส้นทาง เส้นทางขนส่งสินค้าทั่วไป (Break bulk) 9 เส้นทาง และเส้นทางสินค้าเทกอง (Bulk) และยังมีการให้บริการ RORO (Roll-on Roll-off) อีก 25 เส้นทางด้วย
Ro-Ro Terminal ท่าเรือบีโก
ในภาพรวม ท่าเรือบีโกถือว่าเป็นท่าเรือที่มีความพร้อมด้านโลจิสติกส์ระดับดี โดยมีท่าเรือบก (dry port) ชื่อ Plisan อยู่ห่างจากจังหวัดบีโก 35 กิโลเมตร สามารถเชื่อมโยงโดยทางถนนระหว่างท่าเรือกับภาคเหนือของโปรตุเกสได้สะดวก รวมทั้ง ท่าเรือบกดังกล่าวยังมีรถไฟขนส่งสินค้าเชื่อมเข้าสู่กรุงมาดริดด้วย
Plisan Industrial & Logistics Platform0
อย่างไรก็ดี ปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับท่าเรือบีโกในปัจจุบัน ยังถือว่ามีไม่มากนัก โดยในปี ค.ศ. 2023 อยู่ที่ประมาณ 6,580 ตัน แบ่งเป็นการนำเข้าจากไทย 3,469 ตัน และส่งออกไปไทย 3,111 ตัน โดยสินค้าหลักคืออาหารทะเลแช่แข็ง ส่วนประกอบรถยนต์ และเคมีภัณฑ์
นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม
ท่าเรือบีโกถือให้ความสำคัญกับประเด็นสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอย่างมาก โดยได้ริเริ่มนำนโยบาย Blue Growth ของสหภาพยุโรปมาใช้ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 เพื่อมุ่งพัฒนาท่าเรือให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ร้อยละ 30 และใช้พลังงานสะอาดร้อยละ 100 ภายในปี ค.ศ. 2027 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ส่งผลให้ที่ผ่านมา ท่าเรือบีโกได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมในหลายสาขา อาทิ
- ปี ค.ศ. 2020 ได้รับรางวัลชนะเลิศจาก International Association of Ports and Harbors (IAPH) ในประเภท Dialogue with the community and the port city จากการดำเนินโครงการ “Peiraos do Solpor” (Sunset Dock) ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานสีเทาของท่าเรือให้เป็นสีเขียว มีการเชื่อมโยงวิถีชีวิตของชุมชนเมืองและท่าเรือเข้าไว้ด้วยกัน โดยการสร้างพื้นที่สันทนาการให้แก่ชาวเมือง มีการดำเนินกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์ชีวิตสัตว์ทะเล และการประชาสัมพันธ์ความรู้ด้านระบบนิเวศทางทะเลแก่ประชาชน
- ปี ค.ศ. 2022 ได้รับรางวัลชนะเลิศจาก International Association of Ports and Harbors (IAPH) 2022 Sustainability Awards ในประเภทโครงสร้างพื้นฐาน จากการดำเนินโครงการ “Living Ports” ซึ่งเป็นการนำวัสดุคอนกรีตที่เป็นมิตรต่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสัตว์ทะเลมาใช้ในการสร้างท่าเรือ
- ปี ค.ศ. 2022 ได้รับรางวัลชนะเลิศ Atlantic Project Awards 2022 จากสหภาพยุโรปจากโครงการ “PuertAlMar” (DoorToSea) ซึ่งเป็นโครงการเกี่ยวกับการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางทะเลและท่าเรือ
ในอนาคต ท่าเรือบีโกยังได้ตั้งเป้าหมายที่จะดำเนินโครงการต่างๆ อีกถึง 58 โครงการ ภายใต้ยุทธศาสตร์ Blue Growth ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2021-2027 โดยปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการแล้วกว่า 40 โครงการ นอกจากนี้ ท่าเรือบีโกยังได้รับเลือกให้เป็นผู้ประสานงานในเสาที่ 1 “Pillar 1: Ports as gateways and hubs for the blue economy” ระหว่างปี ค.ศ. 2022-2024 ภายใต้แผน Atlantic Action Plan 2.0 ของสหภาพยุโรป อีกด้วย
ทั้งนี้ ความสำเร็จของท่าเรือบีโกในการดำเนินโครงการด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาท่าเรือสีเขียว สามารถเป็นตัวอย่างที่ดี (best practice) ให้กับประเทศไทยในการนำมาประยุกต์ใช้กับการบริหารจัดการท่าเรือต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว และ BCG ของรัฐบาลไทยได้เช่นกัน
ติดตามสาระดี ๆ เกร็ดความรู้และโอกาสทางธุรกิจในสเปนได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด ได้ที่ https://bic-madrid.thaiembassy.org