หลังจากการเปิดประเทศของสิงคโปร์ในเดือนเมษายน 2565 ตลาดแรงงานในสิงคโปร์เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยสถิติปี 2565 เผยว่าการจ้างงานในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างชาติ (Work Permit Holders) จำนวน 201,600 อัตรา ที่ถูกว่าจ้างในภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะการก่อสร้างและการผลิต ขณะเดียวกัน อัตราเฉลี่ยการว่างงานลดลงอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ร้อยละ 2.1 อัตราการว่างงานของคนต่างชาติในสิงคโปร์และผู้อยู่อาศัยถาวร (Permanent Residents) อยู่ที่ร้อยละ 3.0 และ 2.9 รวมถึงการยุติการจ้างงานที่ลดลงต่ำกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 เมื่อเทียบกับ ปี 2564 ถึงแม้ว่าจะมีการปรับโครงสร้างทางธุรกิจโดยการยุติการจ้างงานในช่วง ไตรมาสที่ 4 ปี 2565 แต่อัตราการหางานได้ใหม่ภายใน 6 เดือน ของผู้อยู่อาศัยถาวรที่ถูกเลิกจ้างยังคงเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 73.1 ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 5 ปี
แนวโน้มตลาดแรงงานสิงคโปร์ ปี 2566
Labour Market Developments คาดการณ์ว่า แม้สิงคโปร์จะมีแนวโน้มในการจ้างงานที่เติบโตขึ้นแต่ความท้าทายจากความผันผวนและการเติบโตที่ชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อาจส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานในอนาคต โดยการจ้างงานในสิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะลดลงและไม่สม่ำเสมอในทุกภาคส่วน
อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมภาคการบิน การท่องเที่ยว และ การโรงแรม/ที่พัก คาดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของการเดินทางทางอากาศ การท่องเที่ยว และการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศของจีน ในทางกลับกันภาคการผลิตอาจเกิดการชะลอตัวเนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ลดลง
ขณะนี้รัฐบาลสิงคโปร์ยังคงดำเนินการโครงการเพิ่มทักษะในการทำงานให้แก่พนักงาน เช่น (1) Job Transformation Maps (JTMs) จำนวน 10 รายการ ที่หน่วยงาน Workforce Singapore (WSG) โดยให้ความรู้และทักษะเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งงาน เพื่อช่วยให้นายจ้างและพนักงานสามารถออกแบบงานใหม่ ๆ ได้ล่วงหน้า (2) Support for Job Redesign ภายใต้การให้เงินช่วยเหลือและบริการออกแบบการจ้างงานแก่นายจ้างที่ประสงค์จะเพิ่มผลิตภาพในธุรกิจ ของ Productivity Solutions Grant และ (3) Career Conversion Programmes ช่วยเพิ่มทักษะใหม่ ๆ และฝึกอบรมให้กับพนักงานเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับตำแหน่งหน้าที่ใหม่ และ (4) ระบบจ้างที่ยืดหยุ่น (Flexible Wage System) ซึ่งนายจ้างควรนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการปัญหาและบริหารจัดการค่าตอบแทนให้กับพนักงาน
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า การปลดพนักงานในบริษัทข้ามชาติด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ จะส่งผลต่อตลาดงานสิงคโปร์ไม่มากนัก เนื่องจากในปี 2566 ภูมิภาคเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยน้อยกว่าสหรัฐฯ และยุโรป บวกกับปัจจัยสนับสนุนจากการเปิดประเทศของจีน ทำให้ตลาดด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล E-commerce และการท่องเที่ยวในภูมิภาค จะยังคงเติบโตในปีนี้