ปากีสถานเป็นตลาดขนาดใหญ่ในทวีปเอเชียใต้ ซึ่งมีประชากรเป็นอันดับที่ 6 ของโลก อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านคน และมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปากีสถานขยายตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยเชิงบวก ที่สำคัญ ดังนี้
- มีจำนวนผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการแข่งขันระหว่างกันเพื่อพัฒนาศักยภาพในมิติด้านต่าง ๆ
- แบรนด์ดังจากต่างประเทศที่อยู่ในตลาดปากีสถานได้นำเสนอคุณภาพและการพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใหม่ล่าสุดให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
- ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดปากีสถาน มักถูกมองว่าเป็นสินค้าที่จำเป็นมากกว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย
- ผู้บริโภคในปากีสถานยังนิยมสินค้าที่มีแบรนด์ ซึ่งสินค้าเหล่านี้สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือในตัวของสินค้า
ถึงแม้ว่าปากีสถานจะเป็นตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ แต่หากวิเคราะห์ในรายละเอียดจะพบว่ามีปัจจัยอื่น ๆ ที่ยังคงเป็นความเสี่ยงอยู่ ได้แก่ (1) สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังคงมีส่วนประกอบที่ทำในท้องถิ่น (local components) ในอัตราส่วนที่ยังน้อยเกินไป ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงต้องนำเข้าส่วนประกอบจากต่างประเทศเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ (2) ราคาของส่วนประกอบและอะไหล่ยังมีความแปรผันมากพอสมควร (3) ภาษีศุลกากรเป็นปัจจัยในการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจในปากีสถาน และ 4) สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ายังคงขาดเทคโนโลยีระดับสูง
เมื่อวิเคราะห์ถึงปัจจัยเชิงบวกและความเสี่ยงของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปากีสถานแล้ว ถึงอย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยควรพิจารณาถึงโอกาสที่เพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมดังกล่าว เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในทศวรรษที่ผ่านมาส่งผลต่อความต้องการสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มากขึ้น รวมไปถึงความต้องการของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์จากตลาด e-commerce ในการค้าขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมไปถึงการลงทุนในนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งสามารถนำไปใช้กับส่วนประกอบสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ต่อไปในอนาคต