เศรษฐกิจบรูไนในไตรมาส 3 ของปี 2564 หดตัวร้อยละ 2.2 ตามปัจจัยปริมาณการผลิตน้ำมันและก๊าซลดลงร้อยละ 3.6 และร้อยละ 7.2 ส่วนปริมาณการผลิตก๊าซ LNG ลดลงร้อยละ 9.3 นอกจากนี้ ภาคธุรกิจอื่น ๆ ที่หดตัว ได้แก่ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มร้อยละ 12.3 ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างร้อยละ 8.3 ธุรกิจค้าปลีกร้อยละ 5.2 และธุรกิจบริการร้อยละ 1.1 ยกเว้นธุรกิจการเกษตรขยายตัวร้อยละ 28 ส่วนอัตราการว่างงานปี 2563 เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 7.4 จากร้อยละ 6.8 ในปี 2562 เนื่องจากการใช้มาตรการห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าบรูไนในช่วงสถานการณ์ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก และธุรกิจภาคการผลิต ทั้งนี้ ภาคธุรกิจที่แรงงานท้องถิ่นเข้าไปทดแทนแรงงานต่างชาติมากที่สุด ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจภาคการผลิต
.
ปี 2565 สหประชาชาติได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจบรูไนจะสามารถขยายตัวในอัตราร้อยละ 3.5 และร้อยละ 5 ในปี 2566 โดยเศรษฐกิจบรูไนในปี 2565 จะได้รับอานิสงส์จากภาคอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.2 เนื่องจากราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น หลังจากหดตัวร้อยละ 4.5 เมื่อปี 2564 ในส่วนภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซปลายน้ำ รวมถึงอุตสาหกรรมปุ๋ยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 30 ส่วนภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่น้ำมันและก๊าซคาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 3 โดยในส่วนของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 และคาดว่าจะฟื้นตัวได้ภายหลังประเทศต่าง ๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการห้ามเดินทางเข้าประเทศ
.
บรูไนเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อเตรียมการเข้าสู่ยุคหลังโควิด-19 โดยที่ผ่านมาบรูไนมุ่งเน้น (1) พัฒนาภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซต้นน้ำและปลายน้ำ โดยสำรวจหาแหล่งขุดเจาะน้ำมันและก๊าซเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และ (2) เร่งบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ เช่น ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคธุรกิจ SMEs และ MSMEs รวมทั้งการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งานสัญญาณ 5G ในประเทศ โดยปัจจุบันได้ขยายสัญญาณ Single Radio Access Network (S-RAN) ให้ครอบคลุมร้อยละ 80 ของพื้นที่ในประเทศแล้ว อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาตลาดภายในประเทศ ซึ่งมีขนาดเล็กจะไม่สามารถช่วยให้กิจการต่าง ๆ ในประเทศขยายตัวได้อย่างเต็มที่ และรายได้มวลรวมของประเทศเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ดังนั้น บรูไนยังคงจำเป็นต้องพึ่งพาตลาดต่างประเทศต่อไป
.
ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ บันดาร์เสรีเบกาวัน
เรียบเรียง: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์