การลงทุนในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 อินโดนีเซียมีมูลค่ารวม 241.6 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 16.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2563 ประกอบด้วย (1) การลงทุนจาก ตปท. (FDI) มูลค่า 122.3 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4 ปี 2563 ร้อยละ 10.1 และ (2) การลงทุนภายในประเทศ (DDI) มูลค่า 119.3 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 8.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐโดยธุรกิจที่มีการลงทุนร่วมมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ (1) ธุรกิจเหล็กกล้า การแปรรูปและผลิตสินค้าจากเหล็กกล้าที่ไม่ใช่เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ (2) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้างสํานักงานและโรงงาน (3) ธุรกิจเหมืองแร่ (4) ธุรกิจขนส่ง คลังสินค้า การสื่อสารโทรคมนาคม และ (5) ธุรกิจด้านไฟฟ้า ก๊าช และน้ำ
.
ผู้ที่เข้ามาลงทุนในอินโดนีเซียมากที่สุด 5 ลําดับแรกในไตรมาสที่ 4 ปี 2564 ได้แก่ (1) สเปน 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 25.3 (2) ฮ่องกง 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 17.7 (3) สหรัฐอเมริกา 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 14.7 (4) จีน 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 10.5 และ (5) ญี่ปุ่น 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 6.1 ทั้งนี้ ไทยอยู่ในอันดับที่ 12 โดยมีการลงทุนประมาณ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งธุรกิจที่ได้รับ FDI มากที่สุด 3 อันดับแรกคือ การผลิตเหล็กกล้าและสินค้าจากเหล็กกล้า เหมืองแร่และธุรกิจด้านไฟฟ้า ก๊าช และน้ำ
.
ผู้ประกอบการไทยที่สนใจด้านการลงทุน อินโดนีเซียจะให้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีแตกต่างกันไปตามแต่ละนิคมและเงินลงทุนที่ก่อให้เกิดการจ้างงานในประเทศ ซึ่งอินโดนีเซียมีความพยายามที่จะปรับปรุงการให้ใบอนุญาตให้สะดวกมากขึ้น ขณะที่ด้านการค้า ผู้ประกอบการไทยจะได้สิทธิพิเศษทางการค้าตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area: AFTA) ซึ่งไทย-อินโดนีเซียนับว่าเป็นหนึ่งในคู่ค้าสำคัญระหว่างกัน แต่การค้าในต่างประเทศควรระมัดระวังเรื่องการชำระค่าสินค้าทางออนไลน์ ควรใช้วิธีการทำ Letter of Credit (L/C) เพื่อความปลอดภัยโดยเฉพาะในช่วงนี้ที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
.
สำหรับสินค้าไทยที่ขายดีในอินโดนีเซียหลักๆ จะเป็นสินค้าประเภทอาหาร โดยเฉพาะผลไม้อย่างลำไย ทุเรียน และมะม่วง สินค้าที่เกี่ยวกับความงามก็เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน แต่ต้องพยายามทำการตลาดและสร้างแบรนด์ โดยชาวอินโดนีเซียนิยม K-POP และ K-Drama ค่อนข้างมาก หากทำสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจใกล้เคียงกับสินค้าจากเกาหลีใต้ก็จะสามารถแข่งขันได้เป็นอย่างดี
.
ข้อมูล : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา
เรียบเรียง : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์