บริษัทเเละผู้ประกอบการสโลวีเนียจำนวนมากกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากต้นทุนค่าพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บริษัทหลายเเห่ง อาทิ โรงงานผลิตอาหาร เช่น บริษัท Delamaris ผู้ผลิตปลากระป๋อง ต้องระงับการผลิตชั่วคราวเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะไม่สามารถเเบกรับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นได้ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อกระบวนการผลิต คือ ค่าพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จากเดิม 70 ยูโร/เมกะวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มขึ้นมาอยู๋ที่ 400 ยูโร/เมกะวัตต์-ชั่วโมงในเดือนธันวาคม 2564
.
อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ ราคาพลังงานทยอยปรับตัวลดลงจนอยู่ที่ 175 ยูโร/เมกะวัตต์-ชั่วโมง ในช่วงเดือนมกราคม 2565 ซึ่งยังสูงกว่าค่าพลังงานก่อนหน้านี้ราว 2.5 เท่า ส่งผลให้บริษัทเเละผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อความอยู่รอดเเละคาดว่าราคาสินค้าผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัดในเดือนมีนาคม 2565
.
โดยสภาหอการค้าเเละอุตสาหกรรมสโลวีเนีย (Chamber of Commerce and Industry of Slovenia – CCIS) รายงานว่า การปรับขึ้นค่าพลังงานเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยับยั้งหรือป้องกันได้ เเละมีเเนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2565 จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบด้านราคาพลังงานโดยเร็วที่สุด ซึ่งจากข้อมูลสถิติปี 2563 กำลังผลิตไฟฟ้าภายในประเทศสามารถครอบคลุมประมาณ 92.6% ของความต้องการพลังงานไฟฟ้า โดย 38% มาตากพลังงานนิวเคลียร์ 35% ใมาจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่ง 90% ของพลังงานหมุนเวียนเป็นพลังงานน้ำ เเละ 27% จากพลังงานฟอสซิล
.
ถึงกระนั้นก็ตาม เเม้มูลค่าการค้าในภาพรวมระหว่างประเทศไทยเเละสโลวีเนียของปี 2564 จะขยายตัวได้ดีที่ดุล 1,766 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพการค้าการลงทุนในสโลวีเนีย เเต่ผู้ประกอบการไทยอาจยังมองว่าเป็นตลาดเล็กเเละความต้องการอยู่ในปริมาณที่น้อย อย่างไรก็ดีการที่สโลวีเนียมีทางออกสู่ทะเลเเละมีท่าเรือขนส่งสินค้าสำคัญที่เมืองโคเปอร์ที่สามารถเชื่อมโยงเอเชียกับยุโรปตะวันออกเเละยุโรปกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะสามารถลดระยะเวลาการขนส่งสินค้าจากเอเชียได้ถึงประมาณ 7 – 10 วัน จะช่วยลดต้นทุนด้านเวลา เเละค่าใช้จ่ายในการขนส่งทางบกต่อไปยังจุดหมายปลายทางได้มาก นอกจากนี้ ท่าเรือโคเปอร์มีความตกลง Friendship Agreement พ.ศ. 2554 กับการท่าเรือเเห่งประเทศไทย ท่าเรือโคเปอร์จึงอาจเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจนำเข้า-ส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศยุโรปได้
.
ข้อมูล : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา
เรียบเรียง : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์