เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 สภาแห่งชาติเวียดนามมีมติเห็
.
(1) รถยนต์โดยสารไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ ขนาด 9 ที่นั่งลงมา ปรับลดอัตราภาษีเหลือ 3% และตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2570 อัตราภาษีจะอยู่ที่ 11%
(2) รถยนต์โดยสารไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ ขนาดตั้งแต่ 10 ที่นั่ง ไม่เกิน 16 ที่นั่ง ปรับลดอัตราภาษีเหลือ 2% และตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2570 อัตราภาษีจะอยู่ที่ 7%
(3) รถยนต์โดยสารไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ ขนาดตั้งแต่ 16 ที่นั่ง ไม่เกิน 24 ที่นั่ง ปรับลดอัตราภาษีเหลือ 1% และตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2570 อัตราภาษีจะอยู่ที่ 4%
(4) รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ประเภทใช้สำหรับทั้งโดยสารและขนส่งสินค้า ปรับลดอัตราภาษีเหลือ 2% และตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2570 อัตราภาษีจะอยู่ที่ 7%
.
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 รัฐบาลเวียดนามยังได้ยกเว้นค่าจดทะเบียนครั้งแรกสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 และในช่วง 2 ปีหลังจากนั้นให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียน 50% ของอัตราค่าจดทะเบียนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
.
โดยนโยบายข้างต้น สนับสนุนให้คนเวียดนามหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า และผลักดันอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ในเวียดนาม ลดการผลิตรถยนต์สันดาปอย่างชัดเจน ซึ่งนโยบายข้างต้นออกภายหลังจากที่บริษัท Vinfast ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเวียดนามประกาศแผนหยุดผลิตรถยนต์ใช้น้ำมันและมุ่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในปีนี้ ทั้งนี้ นโยบายข้างต้นจะส่งผลให้ภาคเอกชนและอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์ไทยเสียเปรียบในการส่งออกรถยนต์ของไทยไปยังเวียดนาม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคทางการค้าที่เวียดนามนำมาใช้เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลเวียดนามอนุมัติการลดค่าจดทะเบียนรถยนต์ที่ผลิตภายในประเทศมากถึง 50% และบังคับใช้นโยบายมาตรฐาน EURO 5 กับรถยนต์นําเข้า จึงเป็นเรื่องสำคัญประกอบการประเมินผลและพิจารณาสำหรับผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์ไทยไปยังเวียดนาม เพื่อปรับตัวและเตรียมรับมือกับผลกระทบจากนโยบายข้างต้นที่เวียดนามจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม 2565 ซึ่งจะมีผลต่อการผลิตและส่งออกรถยนต์ไปยังเวียดนามจนถึงปี 2570 นับเป็นระยะเวลา 5 ปีที่เวียดนามปรับใช้นโยบายภาษีดังกล่าว
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย