ภาคค้าปลีกของดูไบและยูเออีกําลังเติบโตเร็วที่สุดในกลุ่มประเทศความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) ซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีอยู่สูงจากการที่ผู้บริโภคใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 และการปรับตัวอย่างยอดเยี่ยมของภาคธุรกิจ ทั้งนี้ จากการศึกษาและสํารวจตลาดของ Majid AI Futaim ผู้นําด้านการค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าในยูเออีในด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคและความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อการค้าปลีกในดูไบและยูเออีในปัจจุบัน โดยธุรกิจการบริโภคของประชาชนลดลงจากภาวะปกติก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพียงร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับภาคส่วนทาง เศรษฐกิจอื่นที่ลดลงถึงร้อยละ 22 และเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศ GCC ด้วย
.
ผู้บริโภคในยูเออีส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของยูเออีจะกลับขึ้นมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและยังพบว่าการค้าปลีกแบบดิจิทัลและออนไลน์กําลังมีอัตราเร่งตัวที่สูงขึ้นมาก โดยยูเออีเป็นผู้นําที่มีความก้าวหน้าด้านธุรกิจ e-commerce มากที่สุดในตะวันออกกลาง ด้วยเหตุผลดังกล่าวทําให้ในไตรมาสแรกของปี 2564 ธุรกิจการค้าออนไลน์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์โตขึ้นร้อยละ 25 สินค้าแฟชั่นเติบโตขึ้นร้อยละ 9 ธุรกิจการค้าของชําทางออนไลน์เติบโตขึ้นร้อยละ 8 และคาดการณ์ว่าในส่วนของเศรษฐกิจยูเออีโดยรวมจะเติบโตขึ้นร้อยละ 3.1 ในปี 2564 เมื่อเทียบกับการเติบโตเพียงร้อยละ 1.3 เมื่อตุลาคม 2563 ทั้งนี้ จากการประเมินของ IMF ในส่วนของภาคการค้าปลีกในห้างสรรพสินค้าในยูเออียังเติบโตขึ้น 10% เนื่องจากประชาชนชาวยูเออีได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 กันอย่างถ้วนหน้าและประชาชนกลับมาใช้ชีวิตในสังคมดังเช่นปกติกันเกือบหมดแล้ว แม้ว่าคนยูเออีและผู้มีถิ่นพํานักจะยังคงใส่หน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างทางสังคมตามข้อกําหนดของทางการยูเออีก็ตามภาค e-commerce ยังคงสามารถเติบโตขึ้น 2 เท่า จากปี 2562 และเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2563
.
สําหรับธนาคารกลางของยูเออีคาดการณ์ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของยูเออีกําลังเติบโตขึ้นร้อยละ 2.5 ในปี 2564 และจะเติบโตฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในปี 2565 ที่ร้อยละ 3.5 นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคม 2564 การค้าปลีกในห้างสรรพสินค้าโตขึ้นร้อยละ 10 การค้าออนไลน์โตขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงตลาดผู้บริโภคท้องถิ่นที่มีความเชื่อมั่นสูงต่อการดําเนินการของภาครัฐในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ
.
นาย Alain Bejani CEO ของ Maid AI Futaim Holding กล่าวว่า จากการศึกษาพบว่าโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนของรัฐบาลยูเออีได้สร้างความหวังและความเชื่อมั่นให้กับประชาชนมากที่สุด สำหรับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 ได้ทําให้ธุรกิจปรับตัวมาสู่การซื้อขายออนไลน์มากขึ้นด้วยการใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ทำให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงจากการซื้อหาสินค้าปกติที่ต้องไปถึงร้านและห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ มาเป็นการซื้อสินค้าทางระบบออนไลน์ แม้ปัจจุบันประชาชนได้ฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง แต่การค้าออนไลน์ก็จะยังมีการเติบโตสูงอยู่ต่อไป โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ การกลับมาเปิดตลาดการท่องเที่ยวมากขึ้นของดูไบและยูเออีโดยรวมในไตรมาสที่ 1/2564 สะท้อนให้เห็นถึงการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพ่ิมขึ้น โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับที่เติบโตขึ้นร้อยละ 91 นาฬิกาและอัญมณีเติบโตขึ้นร้อยละ 207 และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เติบโตขึ้น 90 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2562
.
นอกจากนี้ การเพิ่มการซื้อขายมากขึ้นของแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ การใช้จ่ายที่เป็นไปอย่างระมัดระวังและยั่งยืน ทัศนคติของคนรุ่น millennial และ Gen X ซึ่งใช้จ่ายเงินอย่างชาญฉลาดและประหยัดเงินในสินค้าทุกรายการมากกว่าการซื้อสินค้าด้วยอารมณ์และความรู้สึกยังเป็นมาตรฐานของการค้าปลีกใหม่ ๆ ที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัว นอกจากนี้ การศึกษายังพบว่า มากกว่า 2 ใน 3 ของผู้บริโภคแสดงให้เห็นถึงความกังวลด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อโลกและสิ่งแวดล้อมมากกว่าสินค้าและบริการที่ทําลายสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการควรปรับตัวตั้งแต่ (1) ต้นน้ำ เรื่องของแหล่งที่มาของวัตถุดิบ กระบวนการของธุรกิจ (2) กลางน้ำ กระบวนการจัดการ การแปรรูป เพื่อก่อให้เกิดสินค้าหรือบริการ และ (3) ปลายน้ำ การที่สินค้าหรือบริการไปถึงมือผู้บริโภค ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสินค้าหรือบริการที่รักษาสิ่งแวดล้อมและแนวโน้มของโลกในปัจจุบัน เพื่อสร้างธุรกิจที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป
.
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ