รัฐบาล New South Wales ประกาศแผนที่จะลงทุนเพื่อพัฒนาเขต Bradfield ให้เป็นเมืองใหญ่แห่งที่สามของนครซิดนีย์ ถัดจากนครซิดนีย์และเมืองพารามัตตา ด้วยงบประมาณจำนวน 1,150 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เขต Bradffeld ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Bingelly ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของนครซิดนีย์ ใกล้กับสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ Western Sydney ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 2026 ทั้งนี้ การใช้งบประมาณ ในช่วง 4 ปีนี้ รัฐบาลจะมุ่งดำเนินการวางระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและปรับฟื้นฟูสภาพที่ดินราว 713 ไร่ให้เรียบร้อย เพื่อดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนไม่ว่าจะเป็นบริษัทผู้ผลิตหรือบริษัทวิศวกรรมรายใหญ่
.
โดยนาง Gladys Berejiklian มุขมนตรีแห่งรัฐ กล่าวว่า เมือง Bradfield จะเป็นเมืองแห่งศตวรรษที่ 22 ของออสเตรเลียแห่งแรก และเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างอัตราตำแหน่งงานได้ถึง 200,000 ตำแหน่งในพื้นที่แห่งนี้ นอกจากนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองพารามัตตา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของนครชิดนีย์ประมาณ 60 กิโลเมตร จะมีโอกาสและทางเลือกเพิ่มในการประกอบอาชีพที่อยู่ใกล้กับที่พักได้อีกด้วย โดยพื้นที่ดังกล่าวจะกลายเป็น “เมืองศูนย์กลางขนาดใหญ่ที่จะเพิ่มโอกาสในการจ้างงานมากที่สุดในประเทศออสเตรเลีย”
.
นาย Stuart Ayres รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงานการลงทุนการท่องเที่ยวในซิดนีย์ตะวันตก (Minister of Jobs, Investment, Tourism and Western Sydney) กล่าวว่า ศูนย์กลางย่านธุรกิจ Bradfield เมื่อสร้างเสร็จจะมีขนาดพื้นที่ประมาณร้อยละ 60 ของนครซิดนีย์ เหมาะเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่ทำงานด้านเทคโนโลยี วิศวกรรม และอุตสาหกรรมขั้นสูง นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นสถานที่สำหรับการค้นคว้าวิจัยของสถาบันต่าง ๆ โดยมีอุปกรณ์ชั้นนำที่ทันสมัย รวมมูลค่ามากกว่า 23 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ที่สามารถใช้ร่วมกันได้
.
นาง Jennifer Westacott ผู้บริหารระดับสูงของสภาธุรกิจออสเตรเลียเชื่อมั่นว่า เมือง Bradfield จะเป็นตัวเร่งที่จะผลิกโฉมเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากบริษัทชั้นนำของโลกหลายแห่งต่างต้องการมาลงทุนที่นี่ เพื่อสร้างอุตสาหกรรมใหม่ และสร้างอาชีพใหม่ในพื้นที่ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ปัจจุบันมีพันธมิตรหลายรายที่แสดงเจตนารมณ์ในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวร่วมกัน เช่น Suez Siemens Hitachi Sydney Water and Northrup Grumman เป็นต้น
.
ในสัปดาห์หน้ารัฐบาล New South Wales จะบรรจุแผนงบประมาณจำนวน 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย เพื่อดำเนินโครงการสร้างรถไฟฟ้ารางเบา Parramatta Light Rail สายใหม่ โดยจะวางเส้นทางเชื่อมระหว่างเขต Camelia เมืองพารามัตตา กับ Sydney Olympic Park ตัดผ่าน Wentworth Park นอกจากนี้รัฐบาล New South Wales ยังมีโครงการที่จะสร้างมอเตอร์เวย์ สาย M12 เพื่อเชื่อมสนามบิน Western Sydney เข้ากับมอเตอร์เวย์สายหลัก M4 ด้วย ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับระบบคมนาคมขนส่งของประเทศรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานในอนาคตต่อไป
.
ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่ารัฐบาล New South Wales วางแผนยุทธศาตร์ของประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเห็นได้จากจำนวนอัตราตำแหน่งงานที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 75,000 ตำแหน่ง ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา และมีอัตราการว่างงานลดลงจากร้อยละ 5.5 เมื่อเดือนเมษายน 2564 อยู่ที่ร้อยละ 5.1 ในเดือนพฤษภาคม 2564 การที่รัฐบาล New South Wales จัดสรรงบประมาณในการสร้างศูนย์กลางธุรกิจแห่งที่สามเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกนั้น นอกจากเป็นการสร้างโอกาสในการทำงานให้กับคนในพื้น ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มที่ความต้องการของตลาดแรงงานที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการรองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของรัฐ ในอนาคตต่อไปในระยะยาวอีกด้วย
.
สำหรับประเทศไทย รัฐบาลมีการวางแผนงานระยะยาวเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรถไฟฟ้าเชื่อมต่อ 3 สนามบิน การสร้างมอเตอร์เวย์จากพัทยาไปยังมาบตาพุดเพื่ออำนวยความสะดวกไปยังแหล่งนิคมอุตสาหกรรม เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC ภาคตะวันออก เพื่อรองรับการจ้างงานและการลงทุนสำหรับอนาคตในเขตเศรษฐกิจนี้ นอกไปจากนั้นผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงสามารถพิจารณาที่จะเข้าไปลงทุนในเมือง Bradffeld รัฐ New South Wales ได้ เพื่อรองรับกับการเติบโตของการจ้างงานและเศรษฐกิจของประเทศระยะยาวในอนาคตต่อไป
.
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
.
ขอบคุณรุปภาพจาก : https://www.news.com.au/technology/innovation/design/nsw-government-puts-call-out-to-name-third-city-at-western-sydney-aerotropolis/news-story/869db8f53348b5bbe176f27f3375eaae