กระทรวงการวางแผนและการลงทุนเวียดนามรายงานว่า เมื่อปี 2563 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเวียดนามมีมูลค่ารวมประมาณ 28,530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วงต้นปี 2564 เวียดนามรองรับการลงทุนโครงการใหญ่ด้านเทคโนโลยีหลายโครงการ ในทุกภาคของประเทศ เช่น ในภาคเหนือ Foxconn ได้รับใบอนุญาตการลงทุนโรงงาน Fukang Technology ในจังหวัดบั๊กซาง มูลค่า 270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอยู่ภายใต้แผนการขยายการลงทุนมายังเวียดนาม 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับภาคกลาง จังหวัดเหงะอานได้อนุญาตการลงทุนของบริษัท Everwin Precision ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีจากเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนภาคใต้ มีการลงทุนไหลสู่จังหวัดด่งนายแล้วกว่า 226 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
นาย Nguyen Dinh Cung สมาชิกคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวว่า เวียดนามจะแก้ไขกฎหมายเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการ และธุรกิจรูปแบบใหม่ โดยสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะมุ่งพัฒนาฐานข้อมูลระดับชาติด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขยายการเชื่อมต่อระหว่างการเปลี่ยนผ่านทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นพื้นฐานเข้ากับระบบปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องและกับศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำท้องถิ่น รวมถึงสร้างความแข็งแกร่งของเครือข่ายบริการกลางกับการถ่ายทอดทางเทคโนโลยี นอกจากนี้ จะจัดทำกรอบกฎหมายเพื่อทดลองใช้กลไกและนโยบายพิเศษในการสร้างความก้าวหน้าของการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ ธุรกิจ start-up และบริการสาธารณะ
.
ในด้านการดึงดูดการลงทุนสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการคลังเวียดนาม กำหนดให้ผู้ประกอบการสาขาดังกล่าวได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นระยะเวลา 4 ปี และได้รับสิทธิ์ลดภาษีร้อยละ 50 เป็นระยะเวลา 9 ปี โดยผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ต้องมีใบรับรองการทำธุรกิจสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากหน่วยงานที่มีอำนาจ ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564
.
เวียดนามจะปรับปรุงปัจจัยด้านการลงทุนที่เป็นข้อห่วงกังวลของนักลงทุนต่างชาติ เช่น การพัฒนานโยบายการบริหารจัดการที่ดินให้เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนยิ่งขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น และลดข้อจำกัดให้น้อยลง ปรับแก้กฎหมายเกี่ยวกับการถือครองทรัพย์สิน โดยมุ่งเน้นการจดทะเบียนการถือครองและการใช้ทรัพย์สิน สินทรัพย์ที่จำนองในธนาคาร และการล้มละลาย รวมทั้งให้ความสำคัญต่อสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้นด้วย ทั้งนี้ การพัฒนาสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในประเทศให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่า การปรับปรุงปัจจัยดังกล่าวนี้จะช่วยให้เวียดนามได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่ม Top 30 ของดัชนีสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจของโลกได้
.
ในอนาคต ธุรกิจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางนวัตกรรม การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่จะช่วยขยายโอกาสการลงทุนในเวียดนามได้มากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงผู้ประกอบการไทยสามารถเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนามได้ง่ายมากขึ้น และสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ได้เข้ามาลงทุนอยู่ก่อนแล้ว รัฐบาลเวียดนามมีนโยบายในการส่งเสริมให้ภาคเอกชนหันมาปรับใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการเร่งพัฒนาระบบดิจิทัลในประเทศ
.
สอท. ณ ฮานอย