1. อุตสาหกรรมหลักของเช็กในปี 2564
.
1.1 อุตสาหกรรมยานยนต์: จะยังเป็นภาคอุตสาหกรรมหลักของเช็กต่อไป โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนเกือบ 10% ของ GDP ก่อให้เกิดการจ้างงานโดยตรงในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ 180,000 คน และในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องรวมทั้งหมดประมาณ 500,000 คน นอกจากนั้น อุตสาหกรรมยานยนต์จะเป็นสาขาหลักที่มีสัดส่วนการลงทุนเพื่อพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยถึง 1 ใน 3 ของการลงทุนในสาขานี้ของภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับภาครัฐถึง 7 หมื่นล้านคอรูน่า (9.8 หมื่นล้านบาท) โดยเช็กมีจุดแข็งในการผลิตยานยนต์ ประเภทต่าง ๆ ได้แก่ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบัสและรถบรรทุก รถจักรยานยนต์ trailers และ semi-trailers รวมถึง อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับรถไฟ รถราง และรถไฟรางเบา (tram)
.
1.2 อุตสาหกรรมด้านวิศวกรรมศาสตร์: ในปัจจุบันมีบริษัทเช็กที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมด้านวิศวกรรมศาสตร์กว่า 5,000 แห่ง มีการจ้างงานกว่า 130,000 คน และเช็กมีความโดดเด่นเรื่องกากมีโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อยู่ 2 แห่งที่เมือง Temelin และ Dukovany เมื่อปี 2563 โรงงานไฟฟ้าฯ ทั้งสองแห่งผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 15.75 TWh และ 13.94 TWh ตามลําดับ และเพื่อสนับสนุนนโยบายของ EU ในด้านพลังงานหมุนเวียน รัฐบาลได้ให้คํามั่นที่จะใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนอย่างน้อย 13% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในการผลิตกระแสไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2563 อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันภาครัฐยังต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนเนื่องจากมูลค่าการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสําหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนยังอยู่ในระดับสูงและไม่คุ้มค่าที่เอกชนจะลงทุนเอง ซึ่งโอกาสสําคัญสําหรับนักลงทุนต่างชาติด้านพลังงานในเช็กอยู่ที่จุดแข็งทั้งในด้าน กฎหมายที่รองรับการลงทุนและโอกาสในการขยายการลงทุนและการพัฒนาในสาขาดังกล่าว โดยเช็กยังคงเปิดรับการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบการผลิตกระแสไฟฟ้า การติดตั้งระบบ ควบคุมและป้องกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการกระจายกระแสไฟฟ้า และการก่อสร้างท่อส่งก๊าซที่เชื่อมระหว่างตอนเหนือและตอนใต้ของประเทศ ซึ่งการลงทุนในสาขาข้างต้นมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงและมีระยะเวลาคืนทุนสั้น
.
1.4 อุตสาหกรรมการเกษตรดิจิทัลหรือการเกษตรแบบแม่นยํา (Digital Agriculture/Precision Agriculture) :
.
(1) ในปี 2562 ตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สําคัญของเช็ก ได้แก่ สโลวาเกีย (21.8%) เยอรมนี (20.3%) โปแลนด์ (9.9%) อิตาลี (8.8%) ออสเตรีย (5.5%) และฮังการี (5.0%) ส่วนคู่ค้าที่สําคัญนอก EU คือ รัสเซีย (1.8%) สาธารณรัฐประชาชนจีน (0.8%) ญี่ปุ่นและตุรกี ประเทศละ 0.6% และ สหรัฐอเมริกาและยูเครน ประเทศละ 0.4%
.
(2) ตั้งแต่ปี 2562 เช็กให้ความสําคัญกับแนวคิดและการพัฒนา Smart Farming โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนําเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการเพิ่มปริมาณและคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตรที่เน้นการนําระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาใช้ภาคการเกษตรตลอดจนการใช้ระบบนําวิถีในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อควบคุมเครื่องมือที่ใช้ในการเกษตร ซึ่งจากการสํารวจของสมาคมผู้ประกอบการ SMEs เช็กพบว่า 80% ของผู้ประกอบการด้านการเกษตรได้เริ่มใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในกระบวนการผลิตแล้ว เช่น การใช้ระบบ GPS ในการเพาะปลูก เครื่องรีดนมวัวอัตโนมัติ การใช้ระบบดาวเทียมเพื่อวิเคราะห์สภาพพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลด้านการเพาะปลูก ระบบฐานข้อมูลการปลูกพืชหมุนเวียน และรถแทรกเตอร์ไร้คนขับ และเช็กตั้งเป้าที่จะเป็นหนึ่งในประเทศผู้บุกเบิกด้านการเกษตร 4.0 บนพื้นฐานของการใช้ระบบ sensor ซึ่งเช็กมีความเชี่ยวชาญมากเพื่อช่วยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลให้กับเกษตร เช่น ความชื้นของสภาพพื้นที่ชนิดของพืชที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว ผลผลิต และการจัดเก็บสินค้าก่อนส่งออกหรือส่งไปยังแหล่งกระจายสินค้า และปัจจุบัน Czech Agricultural University เป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักในการพัฒนาระบบ sensor ด้านการเกษตรและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องให้กับรัฐบาล ซึ่งโครงการสําคัญที่อยู่ระหว่างดําเนินการอยู่ที่เมือง Klicany ตั้งอยู่ห่างจากกรุงปรากประมาณ 20 กม. โดยมีแปลงสาธิตการเกษตรแบบ Aquaponic Farm 4.0 และกําลังขยายสู่ Urban Farm 4.0 โดยในฟาร์มดังกล่าวเป็นการ ผสมผสานระหว่างการปลูกผักท้องถิ่นและการเพาะเลี้ยงปลาในพื้นที่จํากัด
.
1.5 อุตสาหกรรมแก้วและเซรามิก: เป็นอุตสาหกรรมเก่าแก่ของเช็กที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ที่เครื่องแก้วโบฮีเมียเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงทั่วยุโรปและถูกนํามาใช้ในการ ประดับและตกแต่งโบสถ์และอาคารสําคัญในยุโรป ปัจจุบันเช็กสามารถผลิตแก้วเพื่อใช้งานในหลายรูปแบบโดยแบ่งเป็นการใช้ในภาคอุตสาหกรรม เช่น บานกระจกขนาดใหญ่ที่ใช้ในการก่อสร้างเส้นใยแก้วในอุปกรณ์ด้าน อุตสาหกรรมแก้วเพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ เช่น ขวดแก้วในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและอาหาร แก้วเพื่อใช้ในห้องทดลอง และกระจกสีเพื่อใช้ในงานตกแต่งและออกแบบภายใน และการใช้ในภาคครัวเรือน เช่น แก้วเครื่องดื่ม ภาชนะรับประทานอาหาร และของตกแต่งบ้าน ทั้งนี้ ก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 ภาคอุตสาหกรรมแก้วฯ ได้เริ่มนําเทคโนโลยีและระบบหุ่นยนต์มาใช้ และได้กลายเป็นหนึ่งในสาขาอุตสาหกรรมของประเทศที่มีการนําระบบอัตโนมัติมาใช้อย่างกว้างขวาง โดยอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แก้วมีสัดส่วนการนําหุ่นยนต์มาใช้มากที่สุด แต่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมแก้วฯ อย่างรุนแรง เนื่องจากในสถานการณ์ปกติ 90% ของผลิตภัณฑ์เครื่องแก้วและเซรามิกของเช็กจะถูกส่งไปขายในตลาดต่างประเทศส่วนตลาดภายในประเทศมีกลุ่มลูกค้าสําคัญคือ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งการจํากัดการเดินทางและการเข้าเมืองเนื่องจากการแพร่ระบาดฯ ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าหลักลดลง เป็นจํานวนลงมากทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ และผู้นําในอุตสาหกรรมแก้วและเครื่องเซรามิกแถวหน้าของเช็ก เช่น Moser Preciosa Bomma Ruckl และ Lasvit ต่างเห็นพ้องว่า สถานการณ์ของอุตสาหกรรมแก้วฯ มีแนวโน้ม จะยังไม่สามารถฟื้นตัวได้ตราบใดที่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังคงดําเนินต่อไปและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว
.
1.6 อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์: เช็กมีชื่อเสียงในการผลิตเตียงผู้ป่วยเก้าอี้เท้าแขนสําหรับผู้ป่วยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่ง บริษัท LINET เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีตลาดส่งออกเตียงผู้ป่วยไปยังทุกทวีปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยโดยมีกลุ่มลูกค้าหลักอยู่ที่ สหรัฐอเมริกา ประเทศในยุโรปกลาง แถบบอลข่าน และในลาตินอเมริกา ตลอดจนเยอรมนี อิตาลี และสเปน ซึ่งเช็กได้ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพและการนํานวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้า และมีเป้าหมายจะขยายประเภทของสินค้าไปสู่การให้บริการก่อสร้างห้องปฏิบัติการทางการแพทย์และการตรวจรักษาคนไข้ การก่อสร้างโรงพยาบาลสนาม นอกจากนั้น สมาคมผู้ผลิตและผู้จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เช็ก (Association of Manufacturers and Suppliers of Medical Devices) ยังมีบทบาทนําในการให้คณะรัฐมนตรีกับภาครัฐเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของ COVID-19 และยังเป็นโอกาสให้ภาคเอกชนผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้นําเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่อยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนามาสู่การนํามาใช้จริง และพัฒนาต่อยอดไปสู่การพัฒนาสินค้าชนิดอื่นที่ใช้เทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เช่น การพัฒนาชุดอุปกรณ์จัดเก็บตัวอย่างเชื้อ COVID-19 (บริษัท Ella-CS) ตลอดจนการพัฒนาแขนหุ่นยนต์เพื่อนํามาใช้ในการรักษาและการทําหัตถการให้กับผู้ติดเชื้อ COVID-19 และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสียงในการติดเชื้อ COVID-19 (บริษัท Robot Protect) ที่จําเป็นต้องเข้า รับการรักษาตัว
.
2. ภูมิภาคสําคัญของเช็กที่มีศักยภาพรองรับการลงทุนจากต่างชาติ
.
2.1 กรุงปราก: แม้กรุงปรากจะเป็นภูมิภาคที่มีพื้นที่เล็กที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นของประเทศแต่นับเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการรองรับการลงทุนจากต่างชาติมากที่สุดและยังมีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดเป็นอันดับ 2 และมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ถึง 15% รายได้ทางเศรษฐกิจมีสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของ GDP ของประเทศ โดยภาคอุตสาหกรรมหลักที่กรุงปรากต้องการจะผลักดันคือ อุตสาหกรรมด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูง โดยมี Czech Technical University (CVUT) กรุงปราก เป็นสถาบันการศึกษาที่มีบทบาทสําคัญในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้เทคโนโลยีและเป็นตัวกลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจ ยุคดิจิทัล ตลอดจนกรุงปรากยังให้ความสําคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอวกาศ โดยได้จัดตั้ง VZLU Scientific and Technical Park โดยเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินอวกาศ การทหาร และอุตสาหกรรมด้าน ความปลอดภัย
.
2.2 Central Bohemia Region: เป็นภูมิภาคโดยรอบของกรุงปราก (แบ่งพื้นที่ตามภูมิศาสตร์โดยนับกรุงปรากเป็นหนึ่งภูมิภาค) และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ EU ถึง 84% มีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่สําคัญคือการผลิตในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมที่ทันสมัย เป็นแหล่งเพาะปลูกสินค้าเกษตรที่สําคัญของประเทศ เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศที่เอื้ออํานวยต่อการเพาะปลูก พืชเศรษฐกิจที่สําคัญ ได้แก่ ธัญพืช บาร์เลย์ พืชตะกูลหัว เช่น ไชเท้า บีทรูท แครอท โดยมีอุตสาหกรรมแปรรูปผักและผลไม้เป็นอุตสาหกรรมที่มีความโดดเด่นของภูมิภาค นอกจากนั้น ยังมีอุตสาหกรรมสําคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมวิศวกรรมศาสตร์และ อุตสาหกรรมเคมี และเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตรถยนต์ของ บริษัท Skoda Auto และ บริษัท Toyota Peugeot Citroen Automobile (TCPA) และโรงงานผลิตอุปกรณ์และส่วนประกอบของอุตสาหกรรมยานยนต์ต่าง ๆ ซึ่งโอกาสในการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในภูมิภาคนี้ยังมีอยู่สูงเนื่องจากมีการจัดตั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง เช่น Mlada Boleslav (อุตสาหกรรมยานยนต์) และ Kladno South Industrial Park (อุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์ตกแต่งและบรรจุหีบห่อ) โดยเขตอุตสาหกรรมเหล่านี้มีจุดแข็งและได้เปรียบในเรื่องของที่ตั้ง เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ทางหลวงและถนนสายหลัก การขนส่งสินค้าและวัตถุดิบไปยังภูมิภาคอื่นหรือไปยังประเทศใกล้เคียงสามารถทําได้โดยสะดวกและค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก
.
2.3 South Moravia Region: เป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับ 2 ของเช็ก โดยมีขนาดพื้นที่คิดเป็น 9% และมีสัดส่วน GDP อยู่ที่ 10.9% ของประเทศซึ่งอุตสาหกรรมหลักของภูมิภาคคือ อุตสาหกรรม ด้านวิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และอุตสาหกรรมอวกาศ และยังมีความโดดเด่นในด้านการศึกษา โดยเฉพาะที่เมือง Brno ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยรัฐบาล 6 แห่งและมหาวิทยาลัย เอกชน 7 แห่ง มีนักศึกษารวมทั้งหมดประมาณ 70,000 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงสุดในประเทศเมื่อเทียบจํานวนนักศึกษาต่อประชากรที่อยู่อาศัยในเมือง โดยมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Brno University of Technology Mandel University และ Masaryk University ตลอดจนเป็นที่ตั้งของสถาบันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่สําคัญของภูมิภาคยุโรป คือ Central European Institute of Technology (CEITEC) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยและพัฒนาระดับแนวหน้าในด้าน Life Sciences Advanced Materials และ Nanotechnology
.
ซึ่งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมหลักของเช็กอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ (การผลิตรถยนต์ลดลง -20%) อุตสาหกรรมเครื่องแก้วและเซรามิก และ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และจากการเปิดเผยตัวเลขล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติเช็กระบุว่า GDP ในปี 2563 หดตัวที่ -5.6% แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้มีการพัฒนาและนํานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในกระบวนการผลิตและทดลองใช้งาน ตลอดจนเพื่อลดการพึ่งพาตลาดหลักของเช็กในภูมิภาคยุโรป เช็กได้เริ่มมองหาช่องทางในการขยายตลาดไปยังภูมิภาคเอเชียและแอฟริกาซึ่งนับเป็นโอกาสสําหรับประเทศไทยเนื่องจากอุตสาหกรรมที่เช็กให้ความสําคัญและต้องการหาพันธมิตรนอกภูมิภาคในปัจจุบันเป็นอุตสาหกรรมที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการเกษตร และอุตสาหกรรมด้านพลังงานทดแทน ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถร่วมมือกับบริษัทเช็กในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถและขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศที่เช็กมีการทำการค้าด้วยอยู่แล้ว
.
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยสามารถสืบค้นเอกสารสรุปข้อมูลและสถานการณ์ในการประกอบธุรกิจในเช็กปี 2564 ฉบับเต็ม ได้ที่ www.doingbussiness.CZ ภายใต้หัวข้อ Doing Business in the CR – 2021 ซึ่งในเอกสารดังกล่าวมีส่วนที่ระบุ ถึงข้อมูลติดต่อหน่วยงานและแนะนําบริษัทในแต่ละภูมิภาคที่ผู้ประกอบการต่างชาติสนใจที่จะเข้าไปลงทุนด้วย
.
สถานเอกอักครราชทูต ณ กรุงปราก