เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2563 กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สปป. ลาว และสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของเกาหลีใต้ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการรับรองการอนุญาตให้บริษัทเกาหลีใต้สามารถจดทะเบียนสิทธิบัตรในสปป.ลาวโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบแยกต่างหาก โดยจะได้รับการอนุมัติจาก สปป. ลาวภายในระยะเวลา 6 เดือน บันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2563 เป็นต้นไป
[su_spacer]
สปป. ลาวและเกาหลีใต้มีความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาตั้งแต่เดือน พ.ย. 2562 โดยเกาหลีใต้ได้ให้ความช่วยเหลือ สปป. ลาวในการจัดตั้งระบบทนายความสิทธิบัตรและจัดฝึกอบรมในด้านดังกล่าวแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สปป. ลาวเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าวกับเกาหลีใต้ หลังจากกัมพูชา ซึ่งได้ลงนามไปเมื่อเดือน พ.ย. 2562
[su_spacer]
โดยปัจจุบัน สปป. ลาวมีความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญากับประเทศต่าง ๆ แล้ว 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ เวียดนาม สิงคโปร์ กัมพูชา และฟิลิปปินส์ โดยความร่วมมือระหว่าง สปป. ลาวกับสิงคโปร์จะคล้ายกับของเกาหลีใต้ คือ การอำนวยความสะดวกและย่นระยะเวลาการจดทะเบียนทางสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า ในขณะที่ความร่วมมือกับจีนจะเน้นความร่วมมือด้านนวัตกรรมและการสร้างสรรค์ การใช้ผลประโยชน์ ปกป้อง และคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ความร่วมมือกับญี่ปุ่นจะเน้นความร่วมมือด้านทรัพย์สินาทางปัญญาในสาขาอุตสาหกรรมและการลดระยะเวลาพิจารณาคำร้องขอจดสิทธิบัตรของ สปป. ลาวโดยใช้ผลการตรวจสอบสิทธิบัตรของญี่ปุ่น
[su_spacer]
ทั้งนี้ ไทยและ สปป. ลาวได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2560 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญา และแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งนี้ สปป. ลาวมีความร่วมมือในลักษณะนี้กับเวียดนาม กัมพูชา และฟิลิปปินส์เช่นกัน
[su_spacer]
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์