เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2563 นายสมจิด อินทะมิด รองรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป. ลาว เป็นประธานการประชุมสภาบริหารกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สมัยสามัญ ครั้งที่ 3 โดยมีประธานและสมาชิกสภาบริหารกองทุนดังกล่าวเข้าร่วม โดยการประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบผล การปฏิบัติงานที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวด้านบัญชีของสภาบริหารฯ และพิจารณาแผนปรับปรุงงบประมาณ 6 เดือนหลังของปี 2563 แผนสนับสนุนเงินทุนวงเงิน 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ งวดที่ 2 แผนงบประมาณประจําปี 2564
[su_spacer]
แผนการสนับสนุนเงินทุนงวดที่ 3 ในช่วงหลังของปี 2563 ความคืบหน้าการปล่อยสินเชื่อ SMEs วงเงิน 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมทั้งมอบนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงการสินเชื่อวิสาหกิจรายย่อย การใช้ประโยชน์จากรายได้ของกองทุนส่งเสริม SMEs การสนับสนุนทุนให้กองทุนอื่น การสนับสนุนทุนเพื่อค้ําประกันในการปล่อยสินเชื่อให้วิสาหกิจรายย่อย
[su_spacer]
ที่ประชุมมีมติรับรองแผนการสนับสนุนเงินทุนวงเงิน 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐงวดที่ 2 โดยสนับสนุนทุนเพิ่มเติม ให้กับ 4 ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ (1) ธนาคารพัฒนาลาว (2) ธนาคาร Saigon Thuong Tin (Sacombank ลาว) (3) ธนาคารร่วมธุรกิจลาว – เวียดนาม และ (4) ธนาคาร Maruhan ญี่ปุ่น – ลาว เพื่อปล่อยสินเชื่อ ให้ SMEs ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี การสนับสนุนทางวิชาการ โดยจะเน้นการสร้างโอกาสให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งทุนภายใต้โครงการต่าง ๆ ได้แก่ โครงการช่วยเหลือ SMEs ให้เข้าถึงสินเชื่อ โครงการส่งเสริม SMEs ให้มีแผนการจัดการบัญชี โครงการรับรองการฝึกอบรมให้ SMEs และการสร้างความเข้มแข็งให้กับการส่งเสริม SMEs รวมทั้งโครงการช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด 19 โครงการทุนอุดหนุนสมทบบางส่วนในการดําเนินธุรกิจ (Matching Grants) และโครงการสนับสนุน SMEs ให้เข้าถึงตลาด โดยการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ การห่อหุ้ม และการออกแบบ
[su_spacer]
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับรองหลักการของร่างระเบียบการสนับสนุนทุนให้โครงการด้านวิชาการ และบทแนะนําการประเมินโครงการด้านวิชาการของสภาบริหารฯ (ฉบับปรับปรุง) เพื่อใช้เป็นแนวทางและยกระดับ ประสิทธิภาพการพิจารณาสนับสนุนทุนส่งเสริม SMEs และมอบแนวทางให้คณะเลขาสภาบริหารฯ ศึกษาและออกแบบ โครงการสินเชื่อวิสาหกิจรายย่อยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเริ่มทดลองการปฏิบัติโครงการดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือวิสาหกิจ รายย่อยและกลุ่มผู้ผลิตที่ต้องการทุน แต่ขาดความสามารถในการเข้าถึงแหล่งทุนจากธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากการขาด หลักทรัพย์ค้ําประกันให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงินจุลภาคในอัตราดอกเบี้ยต่ํา โดยโครงการดังกล่าว มีระยะเวลาทดลอง 5 ปี และคาดว่าจะใช้ทุนเบื้องต้นประมาณ 221,116 ดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงแนวทางสนับสนุน รูปแบบอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือ SMEs
[su_spacer]