กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองฉบับใหม่ของเวียดนามได้บัญญัติการตรวจลงตราประเภทใหม่ สําหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าเวียดนาม เพื่อดําเนินกิจกรรมตามความตกลงระหว่างประเทศที่เวียดนามได้ลงนามแล้ว ซึ่งจะช่วยอํานวยความสะดวกในการปรับใช้ความตกลงระหว่างประเทศรายการใหม่ เช่น ความตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป – เวียดนาม (EVFTA) และความตกลงคุ้มครองการลงทุนสหภาพยุโรป – เวียดนาม (EVIPA) ทั้งนี้ เวียดนามจะพิจารณาการตรวจลงตราระยะเวลาเข้าพำนักระหว่าง 6 – 12 เดือน สําหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าเวียดนาม เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
[su_spacer]
นอกจากนี้ สําหรับผู้ลงทุนทางยุทธศาสตร์ที่เป็นชาวต่างชาติที่มีการลงทุนในเวียดนามตั้งแต่ 100,000 ล้านด่ง (ประมาณ 4.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขึ้นไป จะได้รับการตรวจลงตราเข้าพำนักเป็นเวลาไม่เกิน 5 ปี และได้รับบัตรเข้าพํานักชั่วคราว (temporary residence card) เป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี
[su_spacer]
โดยกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองฉบับเดิมกําหนดว่า นักลงทุนต่างชาติทุกรายในเวียดนามสามารถได้รับการตรวจลงตราเข้าพํานักเป็นระยะเวลา 5 ปี โดยไม่คํานึงถึงมูลค่าการลงทุน ขณะที่กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองฉบับใหม่ ได้แก้ไขว่า สําหรับนักลงทุนต่างชาติจะได้รับการตรวจลงตราเข้าพำนักเป็นระยะเวลา 12 เดือน และจะไม่ออกบัตรเข้าพํานักชั่วคราวให้นักลงทุนต่างชาติที่มีมูลค่าการลงทุนในเวียดนามต่ํากว่า 3,000 ล้านด่ง (ประมาณ 130,400 ดอลลาร์สหรัฐ) นอกจากนี้ กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองฉบับใหม่ได้ยกเลิกข้อกําหนดเดิมเกี่ยวกับพลเมืองของ 13 ประเทศที่เวียดนามยกเว้นการตรวจลงตรา เมื่อเดินทางออกจากเวียดนามแล้ว ต้องรอ 30 วัน จึงจะสามารถเดินทางเข้าเวียดนามใหม่ได้
[su_spacer]
อีกทั้งกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองฉบับใหม่กําหนดให้พลเมืองจาก 13 ประเทศ ได้แก่ เบลารุส เดนมาร์ก ญี่ปุ่น นอร์เวย์ อิตาลี ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส รัสเซีย เกาหลีใต้ สเปน สวีเดน เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ไม่ต้องยื่นขอรับการตรวจลงตราเมื่อเดินทางเข้าเวียดนาม โดยกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองฉบับใหม่นี้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2563 เป็นต้นไป
[su_spacer]
ทั้งนี้ เวียดนามคงจะพยายามอํานวยความสะดวกการลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น เพื่อให้สามารถดึงดูดการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนขนาดใหญ่ และการลงทุนที่มาจากกลุ่มประเทศที่เวียดนามมีความตกลงทางการค้าด้วย
[su_spacer]