สำนักงานสถิตินครโฮจิมินห์รายงานว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2563 นครโฮจิมินห์สามารถดึงดูด FDI มูลค่ารวม 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งจากการลงทุนในโครงการใหม่ การเพิ่มทุนและการซื้อหุ้น
[su_spacer]
การนิคมอุตสาหกรรมและการแปรรูปเพื่อการส่งออกนครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Export Processing and Industrial Zones Authority – HEPZA) เผยสถิติการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมในช่วงดังกล่าวมีมูลค่า 118 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 86 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยเป็นโครงการ FDI มูลค่า 65.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นประมาณ 2.58 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งคาดว่าหลังช่วง COVID-19 นครโฮจิมินห์จะสามารถดึงดูดโครงการ FDI จากสหรัฐฯ ยุโรปและญี่ปุ่นที่ต้องการย้ายฐานการผลิตมายังเวียดนาม เนื่องจากเวียดนามมีข้อได้เปรียบ ได้แก่ มีทรัพยากรมนุษย์และบริษัทที่สนับสนุนห่วงโซ่การผลิต (supplier) ที่มีคุณภาพ โครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ที่ดีและนโยบายภาครัฐที่พร้อมสนับสนุนนักลงทุน
[su_spacer]
สถาบันพัฒนศึกษานครโฮจิมินห์ เสนอให้นครโฮจิมินห์คัดกรองโครงการลงทุนจากต่างชาติโดยใช้มาตรฐานที่สูงและให้ความสำคัญกับโครงการด้านเทคโนโลยีขั้นสูง เนื่องจากจะสามารถต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมสาขาอื่น ๆ รวมถึงช่วยพัฒนาคุณภาพสินค้าในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ด้วย ทั้งนี้ HEPZA ได้เสนอให้มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมพิเศษเฉพาะทางเพื่อผลิตวัตถุดิบที่เป็นห่วงโซ่การผลิตสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยภาครัฐเข้ามาดูแลกฎระเบียบเรื่องราคาค่าเช่าที่ดินเพื่อดึงดูดการลงทุนในสาขาเป้าหมาย ในขณะที่กรมอุตสาหกรรมและการค้านครโฮจิมินห์แนะนำให้นิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ พยายามดึงดูดโครงการลงทุนที่มุ่งไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาขีดความสามารถในการส่งออก พัฒนาอุตสาหกรรมที่ทันสมัย การลงทุนที่ก่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมรวมทั้งการพัฒนาเมืองในส่วนต่อขยายของนครโฮจิมินห์ด้วย
[su_spacer]
ทั้งนี้ คณะกรรมการประชาชนนครโฮจิมินห์ได้มอบหมายให้กรมการวางแผนและสถาปัตยกรรมร่วมมือกับ HEPZA และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทบทวนแผนนิคมอุตสาหกรรมและเสนอแนวทางจัดตั้งกองทุนพัฒนาที่ดินสำหรับการลงทุน รวมถึงดำเนินการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง พื้นที่กว่า 380 เฮกตาร์ในชุมชน Pham Van Hai เขต Binh Chanh นครโฮจิมินห์ด้วย
[su_spacer]