เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2563 คณะกรรมาธิการยุโรป หรือ European Commission ได้นำเสนอแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ “contact tracing apps” เพื่อช่วยควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และเป็นส่วนหนึ่งในการนำไปสู่การผ่อนปรนมาตรการของรัฐบาลต่าง ๆ (exit strategy) ในช่วงวิกฤต COVID-19 อีกด้วย
[su_spacer]
แนวปฏิบัติดังกล่าว กำหนดให้
[su_spacer]
– ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของ EU ด้านการคุ้มครองข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของบุคคล
– ต้องได้รับการเห็นชอบจากหน่วยงานสาธารณสุขของประเทศนั้น ๆ
– ต้องเป็นการใช้โดยความสมัครใจและต้องยกเลิกการใช้งานทันทีที่หมดความจำเป็น
– ต้องใช้เทคโนโลยีที่เน้นให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของบุคคล โดยหลีกเลี่ยงการใช้ location data ของแต่ละคน
– ต้องใช้ข้อมูลที่ไม่เปิดเผยชื่อและตัวตนของบุคคล
– ต้องปฏิบัติตามหลักการระบาดวิทยาและความมั่นคงทางไซเบอร์
– ต้องสามารถใช้ได้ทั่วประเทศสมาชิกอียูเพื่อคุ้มครองผู้ที่ต้องเดินทางข้ามแดน
– ต้องใช้ระบบที่มีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพ
[su_spacer]
EU ยังกำหนดไว้ด้วยว่า ถึงแม้การใช้แอปพลิเคชัน (apps) จะง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพกว่าวิธีการ contact tracing แบบดั้งเดิม (โดยการสัมภาษณ์) แต่วิธีการดั้งเดิมยังจะถูกใช้ในกลุ่มผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงสมาร์ทโฟน เช่น ผู้สูงอายุ และผู้พิการ เป็นต้น
[su_spacer]
โดยหน่วยงานสาธารณสุขของแต่ละประเทศจะประเมินผลและประสิทธิภาพการใช้งาน apps ในระดับประเทศ ในวันที่ 30 เมษายน 2563 และจะรายงานผลให้คณะกรรมาธิการยุโรปภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ซึ่งจะมีการประเมินและรายงานผลให้สาธารณชนทราบในเดือนมิถุนายน 2563 ต่อไป
[su_spacer]
นอกจากนี้ หน่วยงาน European Date Protection Supervisor ของ EU ได้เสนอให้ใช้ apps ร่วมกันของประเทศสมาชิก EU (pan-EU apps) เนื่องจากแต่ละประเทศมี apps ที่มีระบบการใช้งานที่แตกต่างออกไป แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากคณะกรรมาธิการยุโรป เนื่องจากเห็นว่ามีผู้พัฒนา apps หลายรายแล้วและน่าจะต้องการรอดูผลการรายงานของแต่ละประเทศก่อน ทั้งนี้ มีรายงานข้อมูลว่า ไซปรัสและเช็กมีการใช้ข้อมูล location data ของบุคคล โดยเช็กใช้ในลักษณะ memory maps 5 วันย้อนหลัง ในขณะที่รัฐสภาฟินแลนด์จะสืบสวนการใช้ apps ของรัฐบาลฟินแลนด์ ว่ามี location data หรือไม่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสของการใช้ข้อมูล
[su_spacer]
ด้าน นาง Margrethe Vestager รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านดิจิทัล กล่าวให้ความมั่นใจว่า EU จะพยายามใช้ contact tracing apps โดยไม่กระทบกับสิทธิและเคารพความเป็นส่วนตัวของประชาชน โดยจะปฏิบัติตามกฎหมาย ePrivacy และ GDPR อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ มีหลายฝ่ายที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสในการใช้ข้อมูลจาก apps โดยสมาชิกสภายุโรปจากกลุ่ม Renew Europe ได้เรียกร้องให้มีการหารือในสภายุโรปในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะด้วย
[su_spacer]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์/คณะผู้แทนไทยประจำสหภาพยุโรป