รัฐบาลใหม่ของมาเลเซียภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี Muhyiddin Yassin ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของมาเลเซียเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เมื่อ 27 มี.ค.2563 และ6 มี.ค. 2563 สามารถสรุปได้ ดังนี้
[su_spacer]
- มาตรการ “People-Centric Economic Stimulus Package”หรือ PRIHATIN มูลค่า 230 พันล้านริงกิต แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
[su_spacer]
(1) มาตรการเพื่อช่วยเหลือความเป็นอยู่ของประชาชน มูลค่า 128 พันล้านริงกิต เน้นให้เงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าครั้งเดียวแก่ประชาชนรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง ข้าราชการ ข้าราชการเกษียณ นักศึกษา คนขับแท็กซี่ เพื่อลด/ชะลอรายจ่ายค่าสาธารณูปโภคและค่าเช่าบ้าน พักชำระหนี้ส่วนบุคคล พักชำระหนี้กู้ยืมด้านการศึกษา และให้ประชาชนสามารถถอนเงินจากกองทุนสะสมเพื่อเกษียณอายุได้
(2) มาตรการสนับสนุนภาคธุรกิจและSMEs มูลค่า 100 พันล้านริงกิต เน้นการช่วยเหลือเพื่อสร้างสภาพคล่องทางธุรกิจและรักษาการจ้างงาน เช่น อุดหนุนค่าให้จ้าง ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ พักชำระหนี้ภาษี ชะลอการชำระเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
(3) มาตรการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจมูลค่า 2 พันล้านริงกิต เน้นการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ 2563 เช่น โครงการ ECRL และดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็ก เช่น ปรับปรุงซ่อมแซมสาธารณูปโภค และโรงเรียน
[su_spacer]
- มาตรการPRIHATIN SME+ มูลค่า 10 พันล้านริงกิต เป็นมาตรการเสริมเพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องจากภาคธุรกิจSMEs เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องโดยเฉพาะในช่วงการบังคับใช้มาตรการควบคุมการเดินทางMovement( Control Order: MCO) ซึ่งผู้ประกอบการไม่สามารถเปิดดำเนินกิจการได้ มาตรการหลักประกอบด้วยการขยายขอบเขตการอุดหนุนค่าจ้างให้ครอบคลุมผู้ประกอบการมากขึ้น และเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนเป็น 600 –1,200 ริงกิต/เดือน/คน ขึ้นอยู่กับขนาดบริษัท เป็นระยะเวลา 3เดือน(โดยมีเงื่อนไขว่าบริษัทที่รับเงินอุดหนุนต้องคงการจ้างงานไว้ 6 เดือน) และทีการเงินให้เปล่าแบบครั้งเดียว 3,000 ริงกิตแก่ Micro SMEs เงินกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 0 และการยกเว้นหรือลดค่าเช่าสำหรับ ธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กในอาคารที่Government-Linked Companies (GLCs) เป็นเจ้าของ
[su_spacer]