รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ประกาศว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Barakah ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเมือง Ruwais จะสามารถเริ่มการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2563 ซึ่งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Barakah จะดำเนินการบริษัท Nawah Energy Company ซึ่งอยู่ภายใต้ของหน่วยงานด้านพลังงานนิวเคลียร์ของยูเออี (Emirates Nuclear Energy Corporation: ENEC) ที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการดำเนินงานและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
[su_spacer]
โรงงานพลังงานนิวเคลียร์ Barakah จะลดและป้องกันการปล่อยคาร์บอนที่เป็นอันตราย 21 ล้านตันทุกปี หรือเทียบเท่ากับการลดจำนวนรถยนต์ถึง 3.2 ล้านคันออกจากถนนทุกปี โดยโรงงานนี้จะตั้งอยู่ในภูมิภาค Al Dhafra เมือง Ruwais ภายในโรงงานดังกล่าวจะใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ดีไซน์ APR-1400 4 ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกทั้งโรงงาน Barakah จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุด ด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติงานอย่างยิ่งยวด
[su_spacer]
นับเป็นหนึ่งในความพยายามของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ต้องการผลักดันการใช้พลังงานนิวเคลียร์มาตั้งแต่ปี 2550 ภายใต้นโยบายว่าด้วยการประเมินและพัฒนาศักยภาพของพลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ ซึ่งนโยบายนี้มุ่งเน้นไปที่หลักการสำคัญและความมุ่งมั่นของยูเออีที่จะทำให้การดำเนินงานมีความโปร่งใส และปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและความมั่นคงสูงสุด รวมทั้งได้ร่วมมือกับหน่วยงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency: IAEA) เพื่อให้นโยบายของรัฐสอดคล้องกับมาตรฐานเมื่อประเมินและสร้างโครงการพลังงานนิวเคลียร์อย่างยั่งยืนในระยะยาว
[su_spacer]
ทั้งนี้ โดยยูเออีได้พยายามผลักดันการใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา และในปี 2552 รัฐบาลยูเออีได้ร่วมมือกับบริษัท Korea Electric Power Corporation (KEPCO) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ และเป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ชั้นนำของโลกในด้านความปลอดภัยความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพนั้น ได้รับเลือกให้เป็นผู้รับเหมาหลักของ ENEC สำหรับการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ Barakah ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และต่อมาในเดือนต.ค. 2559 ทั้ง ENEC และ KEPCO ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมทุนสำหรับการเป็นหุ้นส่วนระยะยาวและความร่วมมือสำหรับโครงการพลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ ผ่านการร่วมทุนจากการก่อตั้งบริษัท Nawah Energy ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ Barakah นอกจากนี้ ENEC และ KEPCO ยังได้ประกาศจัดตั้งบริษัท Barakah One Company PJSC ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลผลประโยชน์เชิงพาณิชย์และการเงินของโครงการ Barakah
[su_spacer]
โดยต่อมาในเดือนพ.ย. 2559 บริษัท Barakah One Company ได้ลงนามในข้อตกลงการซื้อไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ครั้งแรกกับบริษัท Abu Dhabi Water and Electricity Company ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นบริษัท the Emirates Water and Electricity Company เพื่อซื้อไฟฟ้าไปใช้ในโครงการที่Barakah โดยกำหนดข้อตกลงกรอบการทำงานตามสัญญาระหว่างสองหน่วยงานเพื่อจำหน่ายไฟฟ้าที่ผลิตจากเมือง Barakah ที่ปลอดภัยสะอาดมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้
[su_spacer]
ทั้งนี้ จะเห็นว่า การประกาศใช้ไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ดังกล่าวจะกลายเป็นตัวอย่างสำหรับการพัฒนาโครงการพลังงานนิวเคลียร์ใหม่และเป็นมาตรฐานระดับโลกสำหรับโครงการพลังงานนิวเคลียร์ใหม่ต่อไป
[su_spacer]