ในช่วงการประชุมสมัยสามัญ ครั้งที่ 8 ของสภาแห่งชาติ ชุดที่ 8 เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2562 นายสอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน สปป. ลาว ได้เสนอร่างกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม การลงทุน ฉบับปรับปรุงปี 2559 ซึ่งมีการปรับปรุงมาตรา 12 เพื่อกำหนดนโยบายด้านภาษีมูลค่าเพิ่มให้สอดคล้องกับนโยบายด้านภาษีมูลค่าเพิ่มที่กำหนดไว้ในมาตรา 12 และมาตรา 17 ของกฎหมายว่าด้วยอากรมูลค่าเพิ่ม ฉบับปรับปรุง ปี 2561 โดยยกเลิกการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในอัตราร้อยละ 10
[su_spacer]
กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ฉบับปรับปรุงปี 2559 ระบุว่า การใช้วัตถุดิบภายในประเทศที่ไม่ใช่ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและกึ่งสําเร็จรูปเพื่อส่งออกต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา ร้อยละ 0 (มาตรา 12 ข้อ 3) ซึ่งนโยบายนี้ได้กำหนดขึ้นใหม่เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบภายในเพื่อผลิตเป็นสินค้ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงใช้นโยบายการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่มีจำกัดและไม่สามารถผลิตทดแทนได้
[su_spacer]
นายสอนไซ สีพันดอน กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนฉบับปรับปรุงล่าสุด มาตรา 12 มีรายละเอียด ดังนี้
[su_spacer]
- การนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ที่ไม่สามารถผลิตได้ใน สปป. ลาว เพื่อสร้างเป็นทรัพย์สินคงที่และเครื่องจักรกลที่ใช้ในการผลิตโดยตรงจะได้รับการยกเว้นภาษี และต้องดำเนินการตามกฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส น้ำมันหล่อลื่น ยานพาหนะ และวัสดุต่าง ๆ ให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส่วนการนำเข้ายานพาหนะและเครื่องจักรชั่วคราว ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยภาษี
- การนำเข้าวัตถุดิบ วัสดุอุปกรณ์ และชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิตเพื่อการส่งออกจะได้รับการยกเว้นภาษีในเวลานำเข้าและยกเว้นภาษีในเวลาส่งออกและปฏิบัติอากรมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย
- การซื้อขายวัตถุดิบภายในประเทศเพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูปเมื่อส่งออกจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์แร่ธาตุที่ไม่อยู่ในระเบียบการของกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป. ลาว ให้ดำเนินตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยรัฐบาลเป็นผู้กำหนดบัญชีรายการผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปเพื่อส่งออก
[su_spacer]